เด็กแว่นที่แต่งตัวถูกระเบียบตั้งแต่หัวจรดเท้ากอดหนังสือเล่มหนาไว้ในอ้อมแขนพร้อมกับเดินก้มหน้าก้มตาผ่านจุดที่กลุ่มนักเรียนหลังห้องและเป็นที่กล่าวขานเรื่องไม่ดีสารพัดอย่างคริส
จงอิน ชานยอลและเซฮุน
ทั้งสี่สหายเป็นหนุ่มหล่อที่เป็นที่สนใจในหมู่สาวและหนุ่มน้อยจากแทบทั้งโรงเรียน
ทั้งที่ประวัติเรื่องดีๆจะไม่เคยมีให้เห็นแต่ทุกคนก็ยังคงหลงใหลในรูปภายนอกที่หล่อเหลาปานเทพบุตรของเด็กหนุ่มทั้งสี่
เรื่องราวยกพวกตีกันก็มีไม่ซ้ำวันแต่ที่เด็กเหล่านี้ไม่เคยเหยียบคุกเหยียบตารางเลยก็คงเป็นเพราะบารมีของพ่อของแม่ที่คุ้มหัวอยู่
ยิ่งกับคริสหัวโจกของแกงค์ยิ่งแล้วใหญ่
ทายาทมาเฟียร์จากเกาะฮ่องกงระดับนั้นก็คิดดูแล้วกันว่าจะมีใครหน้าไหนกล้ามามีปัญหาด้วย
ชื่อเสียงเรียงนามที่ไปในด้านลบมากกว่าจะเป็นด้านบวกที่ได้ยินมาทำให้คิมจุนมยอน
หนุ่มน้อยที่ประวัติผลการเรียนและพฤติกรรมใสสะอาดรีบเร่งฝีเท้าเดินผ่านบุคคลอันตรายเหล่านี้ไปให้เร็วที่สุด แต่ถึงจะพยายามไม่ทำตัวเป็นเป้าสายตาและรีบหนีๆให้พ้นไปแล้วก็ตามแต่กับโอเซฮุนแล้ว
แม้แต่แมลงตัวเล็กๆหรือฝุ่นไรแถวนี้ก็คงไม่ยอมให้ผ่านไปง่ายๆหากไม่ได้หาอะไรแกล้งให้สะใจเล่นเสียก่อน
ผลั่ก!
เมื่อเป้าหมายที่อยู่ตรงหน้าล้มลงไปพร้อมกับหนังสือหลายๆเล่มในอ้อมแขนร่วงลงไปกองกับพื้นแล้ว
เซฮุนก็หันไปแท็กมือกับจงอินอย่างรู้กัน
ก็เขาเป็นคนส่งซิกให้เพื่อนซี้ยื่นขาออกไปขัดตอนเด็กแว่นนี่เดินมาเองยังไงล่ะ
“โอ๊ะโอ! แว่นที่ไหนมาเกะกะแถวนี้เนี่ย..”
ชานยอลว่าพร้อมกับก้มหยิบแว่นสายตาที่ดูเชยๆขึ้นมาในระดับสายตาก่อนจะหันไปยิ้มให้สองสหายที่ยืนอยู่อย่างรู้กัน
“ขอแว่นเราคืนเถอะ..”
จุนมยอนรู้สึกเหมือนจะอยากร้องไห้ออกมาเมื่อถูกคนตัวโตๆถึงสี่คนกำลังรุมแกล้งในขณะที่ทุกคนที่เดินผ่านไปก็ทำได้แค่เหลือบมอง
ไม่มีใครมีน้ำใจที่จะเดินเข้ามาช่วยเขาสักคน
“มีตั้งสี่ตายังจะซุ่มซ่ามอีกนะ” ทันทีที่คริสพูดลุกขึ้นยืนและแย่งแว่นมาจากในมือของชานยอล
บรรดาผู้คนที่เหลือบมองมาก็ได้แต่หันหนีกลับไปทำหน้าที่ของตน
ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับภาพตรงหน้า
ก็อย่างที่รู้กันว่าไม่มีใครคิดจะอยากไปมีเรื่องกับคนอย่างคริสหรอก
ก็ไอ้รายล่าสุดที่กล้าไปชี้หน้าด่าสี่หนุ่มนี้ปัจจุบันหมอก็ไม่มีใครเห็นหมอนั่นกลับมาเรียนที่นี่อีกเลย
“ข..ขอโทษ..ขอแว่นคืนให้เราะเถอะ..”
ดวงตาคู่สวยที่หรี่ลงเมื่อไร้แว่นคู่ใจทัศนวิสัยในการมองเห็นติดลบ
สิ่งที่มองเห็นก็เป็นแค่ใบหน้าเบลอๆของผู้ชายที่ยืนอยู่รายรอบตนเอง
“สายตาสั้นขนาดนั้นเลยหรอ?” คริสมองแว่นสายตาที่อยู่ในมือตนเองก่อนจะหยุดยืนตรงหน้าคนตัวเล็กและเพ่งพินิจใบหน้าหวานก่อนจะหันไปมองสบตากับบรรดามิตรสหายที่ยืนเรียงกันหน้าสลอน
สายตาของไอ้เซฮุน จงอิน
รวมไปถึงชานยอลมันสื่อมาถึงเขาเป็นนัยเดียวกันว่าภายใต้กรอบแว่นที่หนาเตอะมีอะไรดีๆซ่อนอยู่
“ขอแว่นเรา...อ๊ะ!!” คนที่พยายามร้องขอแว่นคืนเผลอสะบัดมือตบหน้าของหัวหน้ากลุ่มอย่างคริสด้วยความตกใจ
เขาไม่ได้ตั้งใจจะหาเรื่องหรือต่อต้านอะไรแต่เมื่อกี้เพราะความตกใจที่คริสยื่นหน้าเข้ามาใกล้เกินไปต่างหาก
“คิดว่าเป็นไอ้แว่นอย่างนี้แล้วฉันจะไม่กล้าทำอะไรหรือไง
ห๊ะ!!”
คนถูกตบเดินตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อจนคนตัวเล็กไม่มีทางสู้จนเซมาปะทะกับอก
เพราะคนอย่างคริสเกิดมาไม่เคยถูกใครที่ไหนกล้ามาทำอย่างนี้
แล้วมันเรื่องอะไรที่เขาจะต้องมาถูกไอ้เด็กแว่นที่ไหนก็ไม่รู้มาตบหน้าให้อายคนอื่นแบบนี้
“พวกมึงลากไปเคลียร์ที่ยิมเก่าดิ!!” แรงเหวี่ยงสุดกำลังจนร่างของคิมจุนมยอนล้มลงไปกองกับพื้น
แต่ไม่ทันจะได้ขยับไปไหนก็ถูกพรรคพวกอีกสามคนของหมอนั่น..เข้ามาล็อกแขนและลากให้เดินตามไปโดยไม่มีใครสักคนคิดที่จะมาช่วยหรือหันมามองเลยแม้แต่นิด
“จะบอกอะไรให้นะ..คนที่กล้าทำยังงั้นกับไอ้คริสมันไม่ตายดีสักคน”
คนที่เข้ามาล็อกแขนข้างหนึ่งของจุนมยอนเอาไว้กระซิบเบาๆ
ในตอนที่เขาหวาดกลัวจนเนื้อตัวสั่นคนข้างๆกันที่ประคองเขาก็ปรามคนที่พูดขู่เขา
ในตอนนั้นเองที่คิมจุมยอนได้ยินชื่อของทั้งสองชัดเต็มสองหูว่าชื่อเซฮุนและชานยอล
แม้จะมองภาพเบื้องหน้าไม่ค่อยชัดแต่จุนมยอนก็พอจะรู้ว่าที่ที่ถูกลากมาคือโรงยิมเก่าด้านหลังโรงเรียน
ทันทีที่ย่างก้าวเข้ามาถึงความอับชื้นเพราะไม่ได้ใช้งานมานานทำให้จุนมยอนต้องย่นจมูก
ก่อนจะถูกผลักลงไปนั่งกองอยู่แทบเท้าคนที่ออกคำสั่งให้พาตัวเขามาที่นี่
“เราไม่ได้ตั้งใจ..ฮึก..ขอแว่นเราคืนเถอะนะ..” มือเล็กๆที่พนมมือประสานตรงอกอย่างขอความเห็นใจไม่ได้ทำให้คริสรู้สึกสงสารขึ้นมาเลยสักนิด
และยังไม่ทันที่จะได้เตะหรือกระทืบสั่งสอนไอ้แว่นนี่
คิมจงอินเพื่อนซี้ก็เดินเข้ามาแตะที่ไหล่ของเขาให้ยั้งมือเอาไว้ก่อน
พร้อมกับชวนทำอะไรสนุกๆมากกว่าต้องใช้กำลังชกต่อยกันแบบนั้น เพราะถ้าเป็นกับคนอื่นการลงไม้ลงมือก็อาจจะสนุกแต่กับไอ้แว่นที่ไม่สู้คนแบบนี้จะชกจะต่อยไปก็เปล่าประโยชน์
“ไหนลุกขึ้นมาดิ”
คริสรั้งคอเสื้อพร้อมกับกระชากบังคับให้คนที่นั่งสยบอยู่แทบเท้าลุกขึ้นยืน
แรงรั้งทำให้ชายเสื้อนักเรียนสีขาวหลุดออกจากขอบกางเกงพร้อมกับเผยให้เห็นผิวที่ขาวและเนียนละเอียดจนคนทั้งสี่ถึงกับลอบกลืนน้ำลาย
“กูนี่ตาดีจริงๆเลย พวกมึงว่ามั้ย?”
โอเซฮุนเหยียดยิ้มอย่างพึงพอใจก่อนจะเดินเข้าไปแตะตรงบั้นเอวขาวที่ชายเสื้อมันทรยศเลิกขึ้นและแกล้งดันชายเสื้อขึ้นไปอีก
“ร..เรา..ขอโทษ..ปล่อยเราไปเถอะนะ”
ดวงตาคู่สวยที่ชุ่มไปด้วยน้ำตามันยิ่งขับให้ไอ้แว่นที่ตอนนี้ปราศจากแว่นมาบดบังความสวยงามดูน่ามองขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
“ทำถึงขนาดนี้จะยกโทษให้ง่ายก็ยังไงอยู่นะ..นายนี่ชื่ออะไรนะ?” น้ำเสียงยียวนกวนประสาทของคริสทำให้เพื่อนทั้งสองมองหน้ากันอย่างรู้กัน
ดูท่าว่าวันนี้คงจะได้หาอะไรทำให้เสียเหงื่อสักหน่อยแล้ว
“ค..คิม..จุนมยอน..”
เจ้าของชื่อตอบอย่างกล้าๆกลัวๆก่อนรีบเอามือตะปบขอบกางเกงตัวเองเมื่อถูกคนที่ชื่อว่าเซฮุนกำลังพยายามปลดตะขอมันให้หลุดออกจากกัน
“เฮ้ย! พวกมึงบอกน้องแว่นหน่อยสิว่าต้องทำยังไงดี
พวกเราถึงจะยกโทษให้เขา”
คริสปล่อยมือที่รั้งคอเสื้อคนตัวเล็กออก
ก่อนจะถอยหลังไปดึงเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ๆมือมานั่งและใช้สายตากวาดมองเรือนร่างบอบบางตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ก็แค่ออกกำลังกายด้วยกันสักหน่อย..เด็กเรียนแบบจุนมยอนคนเก่งจะถนัดมั้ยนะ?” แม้จะไม่ช่ำชองในเรื่องพวกนี้แต่จุนมยอนก็ไม่ได้โง่ขนาดไม่รู้ว่าสิ่งที่คนพวกนี้ต้องการและกำลังพูดถึงมันคืออะไร
และก็ไม่ต้องเสียเวลาคิดนานจุนมยอนก็ส่ายหน้าปฏิเสธแทบจะทันที
“ปล่อยยยย!”
ศอกเล็กๆกระทุ้งเข้าเต็มชายโครงของเซฮุนคนที่กอดล็อกเอวเขาเอาไว้ อาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายมัวแต่ก้มลงกุมท้องวิ่งหนีแม้จะมองไม่เห็นหนทางที่ดีกว่านี้
แต่อย่างน้อยการที่วิ่งไปจากคนอันตรายพวกนี้มันก็น่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด
“จะไปไหน!”
มือหนาของจงอินกระชากผมคนที่บังอาจทำร้ายเพื่อนเขาถึงสองคน
ก่อนจะกอดล็อกคอลากให้กลับมาล้มลงตรงที่เดิม
“เบาๆหน่อยสิจงอิน..เดี๋ยวน้องแว่นเขาจะเจ็บ”
จุนมยอนเงยหน้ามองเจ้าของคำพูดที่ก้มลงมาเชยคางของตน
“หึ..วันนี้กูขอไม่ร่วมนะ ขอแค่นั่งดูพวกมึงพาน้องแว่นขึ้นสวรรค์ละกัน..” จบคำพูดของคริส
จุนมยอนก็รู้แล้วว่าต่อจากนี้จะเกิดขึ้นอะไรกับตนเองบ้าง และสิ่งเดียวที่อยู่ในหัวของเขาตอนนี้มันไม่ใช่ไอ้แว่นราคาไม่กี่พันนั่นแล้ว
หากแต่เป็นการหนีรอดจากการกระทำเลวทรามนี้ต่างหาก
“โอ๊ะๆ อย่าใจร้อนสิจ๊ะ..”
เซฮุนและจงอินรีบตรงเข้าไปสมทบกับชานยอลที่รั้งคนตัวเล็กเอาไว้ มือไม้ที่ไม่รู้ว่าของใครเป็นของใครเอื้อมไปดึงรั้งกางเกงให้หลุดออกจากเรียวขาขาวๆ
ไม่ว่าเจ้าของจะพยายามดิ้นหรือสะบัดตัวให้หลุดยังไงแต่ก็คงจะสู้แรงของคนถึงสามคนไม่ได้
กางเกงผ้าเนื้อดีถูกโยนไปใส่คริสที่เอาแต่นั่งมองดูอยู่
แต่คนที่นั่งนิ่งอยู่ก็ไม่ได้ว่าอะไรแค่โยนมันลงไว้ข้างตัวมองดูเพื่อนๆกำลังบีบเค้นบั้นเอวขาวๆจนขึ้นรอยนิ้วมือแดงไปทั่ว
“อย่า!! ได้โปรด...”
มือหนาของชานยอลล้วงเข้าไปภายในชั้นในตัวบางก่อนจะลงน้ำหนักมือสัมผัสกับส่วนนั้นจนเจ้าของมันพยายามหนีบขาเข้าหากัน
แต่มือสากๆของอีกสองคนที่ลูบไล้ไปตามเรียวขาทำให้จุนมยอนต้องส่งมือไปทั้งผลักและดันคนพวกนั้นให้ออกห่าง
“คิมจุนมยอนอย่างนั้นหรอ...”
จงอินอ่านชื่อจากเข็มกลัดที่อยู่บนอกเสื้อด้านซ้ายก่อนจะลูบมือผ่านป้ายชื่อและลงน้ำหนักจงใจกดหัวแม่มือลงไปสัมผัสกับยอดอกและใช้ฟันซี่คมงับลงไปด้วยความหมั่นเขี้ยว
หยดน้ำลายที่ซึมผ่านเชิ้ตตัวบางทำให้เห็นยอดอกที่แข็งเป็นไตรับกับสัมผัสของตนก็ได้แต่หัวเราะอย่างพึงพอใจ
“ถอดเสื้อออกสิ กูอยากเห็นผิวขาวๆชัดๆ”
คำสั่งจากคริสที่นั่งไขว่ห้างพร้อมกับใช้สมาร์ทโฟนในมืออัดคลิปกิจกรรมที่บรรดาเพื่อนรักกำลังทำอยู่ทำให้เซฮุนไม่ลังเลที่จะละมือจากเรียวขาเล็กมากระชากทีเดียวกระดุมเม็ดเล็กๆก็หลุดกระเด็นออกจากสาบเสื้อเผยให้เห็นผิวขาวราวกับน้ำนมอย่างที่คริสต้องการ
ยามที่มือของเซฮุนแหวกสาบเสื้อตัวเล็กให้แยกออกจากกันมุมปากของคริสก็ยกยิ้มเมื่อเพื่อนรักช่างรู้ใจเขาเสียเหลือเกิน
คริสมองตามเรียวนิ้วยาวของเซฮุนที่ขยี้ยอดอกเล็กๆจนมันแดงชัดตัดกับผิวขาวๆก็ได้แต่หัวเราะหึในลำคอเมื่อโอเซฮุนมันตาถึงจริงๆ
ที่สามารถมองเห็นความงดงามที่ถูกกรอบแว่นบดบัง
“ปล่อย..เรา..ฮึก..ไป..เถอะ”
ร่างสูงของโอเซฮุนเหยีดยาวลงนอนกับพื้นก่อนจะส่งสายตาให้เพื่อนทั้งสองอย่างจงอินและชานยอลเป็นนัย
หลังจากนั้นไม่นานเรือนร่างบอบบางของจุนมยอนก็กดไหล่ให้นั่งชันลงไปโดยเรียวขาขาวๆคร่อมทับอยู่กับหัวของคนที่ล้มตัวลงนอน
“ฮึก!..อึก..”
จงอินให้รางวัลกับตนเองด้วยการช้อนคางคนตัวเล็กเข้ามารับจูบ แต่มันก็น่าหงุดหงิดตรงที่คนอวดดีเอาแต่เม้มปากเสียแน่นจนต้องฟาดฟันกันด้วยริมฝีปากอยู่พักใหญ่
ทั้งขบทั้งเม้มจนได้กลิ่นคาวเลือดคลุ้งในโพรงปาก
ถึงอย่างนั้นนั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่คิมจงอินจะมัวมาเสียเวลาสนใจ
เพราะเรียวลิ้นเล็กๆที่โรมรันพันเกี่ยวกันอยู่ต่างหากคือสิ่งที่เขาต้องการ
“อึก!”
มือใหญ่ๆของชานยอลที่ปลุกปั้นจนส่วนนั้นของคนตัวเล็กดันตัวสู้มือ
จากนั้นนิ้วเรียวยาวก็ค่อยๆเกี่ยวชั้นในสีขาวที่เป็นอุปสรรคนั้นออกไป
แต่ติดที่เพื่อนเซฮุนที่นอนอยู่ใต้ร่างขาวทำให้ชานยอลเลือกจะใช้วิธีฉีกมันออก
โดยมีเพื่อนเซฮุนที่รับหน้าที่ส่งแท่งเนื้อนั้นเข้าปากอย่างรู้หน้าที่
“ฮื้อ!!”
มือเล็กๆจิกที่แขนของจงอินที่บีบคางและตะกรุมตะกรามปล้นจูบจนหอบหายใจแทบไม่ทัน
ในขณะที่ส่วนล่างก็ได้ริมฝีปากได้รูปของคนที่เซฮุนกำลังปรนเปรอไม่ขาด
จุนมยอนรู้สึกราวกับจะขาดใจตายลงให้ได้ตรงนี้ แล้วยิ่งมือของคนที่กระชากชั้นในของเขาออกไปกำลังเลื้อยมาสะกิดยอดอกเล่นจนร่างกายสั่นกระตุกก็ยิ่งอดสูกับชีวิตของตัวเอง
“ป..ปล่อย..เรา..อึก..” จุนมยอนก้มลงมองหน้าคนที่ปรนเปรออยู่ใต้ร่างตนด้วยใบหน้าเปื้อนน้ำตา
จะให้ก้มหัวให้ยังไงก็ได้ ขอแค่ปล่อยเขาไปจากไอ้พันธนาการเหล่านี้เสียที
แต่ดูท่ามันจะส่งไปไม่ถึงโอเซฮุนเมื่อฝ่ายนั้นยอมละริมฝีปากออกมาก็จริงแต่ก้านนิ้วยาวก็ทั้งบีบทั้งรูดเร็วก่อนจะแหย่ลิ้นร้อนผ่านเข้าไปตรงรอยแยกบริเวณก้นงอนๆ
“อะ..อึก..ฮื้ออ!”
เข่าที่ตั้งชันเพื่อทรงตัวแทบจะไม่มีแรงยามที่ลิ้นที่ทั้งร้อนและแฉะชื้นแทรกลึกเข้ามากับช่องทางที่ไม่เคยมีใครล่วงเกิน
หน้าท้องขาวๆหดเกร็งยามที่ถูกมือใหญ่ๆของชานยอลบีบเค้นทั้งขยุมและขยี้นิ้วมือลงกับอกแดงๆทั้งสองข้าง
“อ๊า..ฮึก..”
เส้นผมนุ่มลื่นมือถูกกระชากด้วยน้ำมือของคิมจงอินจนใบหน้าหวานๆเพริ่ดแหงนขึ้น ก่อนปลายจมูกโด่งจะไล้ไปทั่วทั้งกรอบหน้าหวาน
กลีบปากได้รูปกดจูบและงับริมฝีปากล่างและดูดดึงจนมันบวมช้ำ
ก่อนจะไล้กดจูบไปทั่วทั้งปลายจมูกเล็ก พวงแก้ม หางตา
และยิ่งยามที่เขาลากลิ้นไล้กับใบหูเล็กๆนั่นด้วยแล้วเห็นปฏิกริยาตอบรับจากคนตัวเล็กด้วยแล้วก็ยิ่งชอบใจ
“จ๊วบ!” คนที่ละเลงลิ้นกับตรงบั้นท้ายทั้งดูดเม้มและซุกใบหน้าลงไปอย่างหื่นกระหายทำให้เพื่อนๆต้องพากันห้ามปราม
ก็เข้าใจว่าอารมณ์และความต้องการของคนเรามันห้ามกันไม่ได้ง่ายๆ
แต่ดูเหมือนว่าไอ้เซฮุนก็ไม่คิดที่จะห้ามหรือยั้งมือเลยสักนิด
“กูไม่ไหวละสัด!” เสียงสบถของเซฮุนทำให้ชานยอลขยับนั่งลงแล้วประคองเอาคนตัวขาวลงมาจากตัวเพื่อนที่ของขึ้นเต็มที่ก่อนจะขยับปรับท่าให้คนที่ไร้หนทางสู้มานั่งซ้อนอยู่กับตักและก็ไม่ปล่อยโอกาสที่จะหาความสุขให้ตัวเองด้วยการดูดเม้มที่หลังคอขาวแล้วลูบผิวเนียนๆเล่น
“ช่วยไอ้เซฮุนมันหน่อยสิครับเพื่อนจงอิน”
คริสพูดขึ้นพลางลอบกลืนน้ำลายและจดจ้องร่างขาวกระจ่างไม่วางตา
คนที่ถูกขอร้องให้ช่วยก็รู้งานขยับเข้าไปคุกเข่าตรงหน้าร่างขาวๆที่หอบหายใจเข้าปอดอยู่
ก่อนจะเหลียวกลับมามองมองเพื่อนเซฮุนที่ยังวุ่นวายกับการปลดเข็มขัดและเตรียมความพร้อมอยู่
เลยอาศัยจังหวะนั้นเอื้อมมือไปดันเรียวขาเล็กให้แยกออกจากกันและโน้มใบหน้าลงไป
แต่คนที่เหมือนจะหมดฤทธิ์กลับดิ้นสู้ขึ้นมา
ขาขาวๆที่พยายามหนีบเข้าหากันไม่สามารถทำอย่างนั้นได้เมื่อใบหน้าหล่อของคิมจงอินยังอยู่ตรงหว่างขา
วงแขนแข็งแรงจับล็อกต้นขาขาวไว้พร้อมกับโลมเลียตั้งแต่ซอกขาด้านในก่อนจะต่ำลงไปจนถึงรอยแยกทางด้านหลัง
แหย่ลิ้นเข้าไปลึกเท่าที่จะทำได้พร้อมกับตวัดรัวไปมา
ในตอนนั้นเองที่จงอินเข้าใจความรู้สึกของเซฮุนแล้วว่ามันรู้สึกยังไง
ทำไมถึงตบะแตกเอาได้ง่ายๆ
“สัด! อย่าแซงคิวกู” คนถูกถีบออกได้แต่สบถอย่างหัวเสียและยอมถอยออกมาอย่างเสียไม่ได้
จงอินยอมถอยออกมาให้เซฮุนเข้าไปแทนที่
ก่อนจะมองไอ้ชานยอลด้วยความหมั่นไส้ที่มันทำรอยแดงๆเอาไว้จนทั่วแผ่นหลังบางนั่นโดยไม่ได้เดือดร้อนอะไรกับการที่เขาและไอ้เซฮุนแย่งกันแทบเป็นแทบตาย
พอหันไปมองหน้าไอ้คริสที่ยังคงถือโทรศัพท์ถ่ายคลิปอย่างไม่เป็นเดือดเป็นร้อนก็พาลหงุดหงิดว่านี่เขาเป็นบ้าอยู่คนเดียวหรอวะ
แต่จะว่าไม่รู้สึกอะไรก็คงไม่ใช่เพราะดูจากนิ้วมือที่จับโทรศัพท์ของมันจะเกร็งผิดกับทุกที
และต่อให้ไอ้หน้าหล่อๆเหมือนลูกครึ่งของมันจะนิ่งเฉยแค่ไหนแต่ลูกชายของมันที่ดันตัวขึ้นมานั่นก็เป็นตัวบอกได้ดีว่าเพื่อนคริสรู้สึกยังไง..หึ
“พร้อมนะคนเก่ง...”
มือใหญ่เอื้อมไปบีบคางเล็กเอาไว้ก่อนจะป้อนจูบปลอบใจเด็กน้อยที่เอาแต่สะอื้นจนตัวโยน
แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะสำหรับโอเซฮุนแล้วภาพตรงหน้านี้มันเร้าใจเขาเป็นบ้าเลย
ก้านนิ้วยาวปัดผ่านส่วนที่ยังไม่ได้รับการปลดปล่อยของคนตัวเล็กก็ได้แต่หัวเราะหึในลำคอ
พลางเอื้อมมือมารูดเร้าเจ้าแท่งความต้องการของตนและขยับจับมันให้ไปถูไถกับช่องทางที่เต้นตุบๆรอเขาเติมเต็ม
“อย่า..อะ..”
เสียงครางงึมงำในลำคอของเซฮุนยามที่กดส่วนปลายเข้าไปในร่างขาวทำให้คนที่กอดคนตัวขาวไว้ทั้งตัวอย่างชานยอลถึงกับต้องเอื้อมมือไปลูบลูกชายของตนไปพลางๆ
โอเซฮุนสบถคำหยาบออกมาเมื่อแท่งเนื้อร้อนกดเข้าไปได้ไม่สุด
ร่องเนื้อที่คับแน่นมันเต้นตุบๆและบีบส่วนปลายที่อยากได้อีกฝ่ายจนใจจะขาดให้ทรมานเล่น
เข่าแหลมๆจิกลงกับพื้นเพื่อทำหน้าที่ส่งตัวไสกายเข้าไปในร่างของคิมจุนมยอน
แต่มันก็ยังไม่เป็นดั่งใจอยู่ดี
“ไอ้ชานยอลออกไปดิสัด!”
คนถูกผลักสบถอย่างหัวเสียแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยามถอยออกมา
เพราะดูท่าว่าในเวลาที่เซฮุนกำลังคลั่งควรปล่อยมันบ้าไปคนเดียวท่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
“อย่าเกร็งนักสิ..จุนมยอน” พอเพื่อนตัวโย่งขยับลุกออก
โอเซฮุนก็ตระกองกอดคนที่ไร้เรี่ยวแรงมาไว้ในอ้อมกอดตนเองแทน
มือหนาไล้ไปตามแผ่นหลังที่มีรอยแดงเป็นจ้ำลากลงไปจนถึงบั้นท้ายแล้วบังคับกดลงให้ส่วนแข็งขืนของตนได้แทรกเข้าไปอีกครั้ง
“ฮะ..ฮึก” ริมฝีปากหยักยกยิ้มเมื่อมือเล็กๆขยับมาวางบนหัวไหล่ตน
นิ้วมือหนาบีบบั้นท้ายอวบอิ่มแรงๆพร้อมกับไสกายกดเข้าหาย้ำๆ
แต่ก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จเหมือนครั้งที่ผ่านๆมา
“จุนมยอนครับ..”
โอเซฮุนใช้ความพยายามอย่างมากที่จะข่มให้ตนเองใจเย็นลง
พร้อมกับลงลิ้นกับยอดอกแล้วดูดเสียงดังจนเพื่อนที่ได้แต่ยืนมองขยี้หัวตัวเองด้วยความหงุดหงิด
ในตอนที่จุนมยอนหอบหายใจสะท้านเซฮุนก็ค่อยๆกดสวนกายเข้าหาอย่างค่อยเป็นค่อยไป
จนกระทั่งใบหน้าหวานๆที่เหยเกถูกดึงโน้มไปแล้วริมฝีปากก็ถูกดูดดึงจนต้องเผยอปากอย่างจำยอม
“อะ..อึก..”
ลิ้นเล็กๆถูกดูดดึงด้วยกลีบปากได้รูปจนช่องทางเบื้องหลังค่อยๆผ่อนคลายลงและกลืนกินแท่งเนื้อที่ใหญ่โตเข้าไปช้าๆจนกระทั่งสุดความยาว
จุนมยอนจิกเล็บลงที่หัวไหล่ของคนที่ยังแช่ค้างอยู่ในร่างกายตน
ช่องทางที่โอบรัดความเป็นโอเซฮุนเอาไว้แน่นทำให้คนที่ได้แต่ยืนมองรู้สึกอิจฉาจนหงุดหงิด
“อะ..เราจ..เจ็บ”
รอจนช่องทางนั้นคุ้นชินแล้วโอเซฮุนก็ไม่รีรอที่จะกระแทกกายเข้าหา
หน้าท้องขาวๆหดเกร็งยามที่ได้อุ้งมือใหญ่ๆช่วยรูดเร้าส่วนที่แข็งขืนของตนเอาไว้ให้
ความเจ็บปวดที่อีกฝ่ายชำแรกเข้ามาทำให้เรียวแขนเล็กไขว่คว้าก่อนจะโอบกอดรอบคอคนที่ไสกายเข้าหาตนเอาไว้แน่น
“ฮึก!”
ใบหน้าหวานซุกลงกับซอกคอที่ชื้นเหงื่อยามที่อีกฝ่ายเร่งความเร็วกระแทกเข้ามาจนเจ็บจุก
แต่ก็ไม่ยากจะฝืนตามแรงกระแทกของอีกฝ่าย
เพราะยิ่งจุนมยอนไม่ยอมขยับกดรับแท่งเนื้อนั้นอีกฝ่ายก็จะกระแทกเข้ามาแรงจนสะท้านไปทั้งร่าง
โอเซฮุนกอดร่างขาวเอาไว้แน่นจนแทบจะรวมร่าง
กดปลายจมูกแนบแก้มขาวและซุกไซร้ข้างลำคออย่างหื่นกระหาย อีกทั้งยังขยับสะโพกเป็นจังหวะเร็วและรัวยิ่งขึ้นจนคนตัวขาวสั่นคลอนไปทั้งร่าง
เสียงหวีดร้องผสานไปกับเสียงกระแทกกระทั้นเข้าออกภายในเรือนร่างขาวทำให้จงอินต้องเอื้อมมือไปปลดซิปกางเกงของตนเองและช่วยผ่อนคลายความอึดอัดจากความต้องการเหล่านั้นด้วยอุ้งมือของตนเอง
“แน่นสัด..” เสียงครางงึมงำฟังไม่ได้ศัพท์
พร้อมกับจังหวะที่ค่อยๆผ่อนช้าลงเมื่อโอเซฮุนกำลังจะปลดปล่อยออกมา
แรงกระชับกอดของคนทั้งคู่โอบรัดกันมากยิ่งขึ้นเมื่อส่วนนั้นของเซฮุนถอนออกมาและกระแทกเข้าไปในร่างขาวทีเดียวจนสุด
“อ๊า!”
กดเข้าและออกจนสุดอยู่อย่างนั้นได้ไม่กี่ครั้งความต้องการที่สั่งสมมาทั้งหมดก็ปลดปล่อยมา
พร้อมกับร่างของคนสองคนที่นั่งกอดกันนิ่ง
เซฮุนรู้สึกเหมือนกับว่าช่วงเวลาแห่งความสุขที่ผ่านไปนั้นมันเป็นเพียงแค่ไม่กี่วินาทีด้วยซ้ำ
แม้จะไม่อยากถอยออกไปแต่ก็เพราะกลัวว่าจะถูกเพื่อนรุมกระทืบตายเสียก่อนจึงจำต้องถอนกายออกมาอย่างไม่เต็มใจนัก
น้ำขุ่นคาวที่ไหลเยิ้มออกมาทำให้ก้านนิ้วยาวปาดผ่านช่องทางที่แดงช้ำนั้นจนคนตัวเล็กสะดุ้งเฮือก
“กูขอต่อ!” เป็นจงอินที่ปรี่เข้าไปรั้งให้คนตัวเล็กลุกออกมาจากตักของเพื่อนที่ชิงไปถึงฝั่งฝันก่อนแล้ว
[ต่อ]
เรือนร่างที่บอบช้ำถูกบังคับให้ลุกขึ้นยืนแม้เรี่ยวแรงแทบจะไม่มีแล้วก็ตาม
จุนมยอนสะอื้นตัวโยนแต่ก็ไม่มีใครในทีนี้คิดจะสงสารหรือเมตตาสักนิด
ส่วนกลางกายที่สั่นระริกเพราะยังไม่ได้ปลดปล่อยมีหยาดของเหลวฉ่ำเยิ้มตรงส่วนปลายเพียงแค่มองดูจงอินก็รู้ว่าอีกไม่นานสุดปลายทางของคนตัวเล็กก็คงจะมาถึง
“ไหนดูสิ เซฮุนมันทำจุนมยอนคนเก่งตรงไหนบ้าง..” น้ำเสียงที่ดูเหมือนเป็นห่วงเป็นใยกันหากแต่การกระทำกลับตรงข้ามโดยสิ้นเชิง
มือหนาเอื้อมไปกอบกุมมือเล็กให้มาสัมผัสกลางกาย
สัมผัสจากมือนุ่มนิ่มที่ลูบผ่านเนื้อผ้าทำให้เขาเผลอหลุดเสียงครางออกมา
จนสุดท้ายแล้วก็อดรนทนไม่ไหวบีบบังคับมือนั้นให้ช่วยปลุกปั้นและลูบเข้าไปในชั้นใน
“ดูสิเพราะจุนมยอนเลยนะ..มันถึงเป็นแบบนี้น่ะ” จุนมยอนก้มลงมองส่วนที่แข็งขืนในอุ้งมือตนเอง
จู่ๆก็รู้สึกว่าอยากจะวิ่งหนีออกไปให้ไกลเสียในตอนนี้
แต่เรี่ยวแรงจะขยับหรือก้าวเดินมันหมดลงไปตั้งแต่ถูกคนที่ชื่อเซฮุนทำร้ายแล้ว
“เซฮุนมันสอนงานให้ขนาดนั้นแล้ว..ทีนี้รู้แล้วใช่มั้ยว่าต้องทำยังไง?”
คำถามที่เป็นคำสั่งกลายทำให้คนฟังต้องรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที แต่จุนมยอนคงไม่รู้ว่าไอ้ท่าทางแบบนั้นกำลังทำให้คนออกคำสั่งไม่พอใจมากขนาดไหน
“ก็เลือกเอาว่าจะเอามันเข้าไปเอง..หรือจะให้ฉันกระแทกเข้าไป!”
น้ำเสียงเยือกเย็นของคนที่กระซิบข้างหูพร้อมกับกดจูบที่ข้างแก้มแรงๆทำให้คิมจุนมยอนต้องยอมจำนน
มือเล็กที่สั่นเทารูดเร้าสิ่งที่แข็งสู้มืออย่างกล้าๆกลัวก่อนจะก้าวขยับเข้าไปใกล้
เพียงแค่กำความเป็นชายของคนตัวสูงให้เข้ามาใกล้เรียวขาขาวๆก็ถูกคิมจงอินจับยกขึ้นมาพาดบนท่อนแขน
ทำให้เห็นช่องทางเบื้องล่างได้ชัดเจน
“ใส่มันเข้าไปสิ..”
จุนมยอนหลับตาปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่อาย
พร้อมกับกำแท่งเนื้อนั้นจรดเข้ามาตรงปากทางด้านหลังของตนเอง
ของเหลวที่คั่งค้างอยู่ด้านในเป็นเหมือนกับตัวหล่อลื่นอย่างดีให้คิมจงอินสามารถไสกายเข้าไปได้ง่ายยิ่งขึ้น
มือหนาวางตรงบั้นเอวค่อยๆลูบไล้แผ่วเบาลากสัมผัสจนมาหยุดอยู่ที่ยอดอกทั้งสองข้าง
นิ้วหัวแม่มือคลึงลงไปรอบฐานช้าๆก่อนจะใช้ปลายเล็บสะกิดเบาๆพร้อมกันเพียงเท่านั้นร่างกายบอบบางก็กระตุกและเอนเข้าหาจนต้องรวบเข้ามากอดเอาไว้
“น่ารักมาก..เด็กดี”
ตอบรับคำชมเหล่านั้นด้วยการส่งกายย้ำเข้าไปในเรือนร่างบอบบาง
ขาเพียงข้างเดียวที่จุนมยอนใช้ทรงตัวมันสั่นแต่จงอินก็ไม่ได้ใส่ใจเท่ากับความร้อนรุ่มภายในกายที่ส่วนนั้นของตนเองฝังอยู่
จงอินส่งมือไปลูบเรือนผมของเด็กน้อยที่กำลังทำให้เขามีความสุขก่อนจะก่อนจะช้อนท้ายทอยให้คิมจุนมยอนเด็กดีเงยหน้าขึ้นมารับจูบเป็นรางวัล
ริมฝีปากที่เผยออย่างรู้งานทำให้จงอินกระตุกยิ้มพึงพอใจ
ก่อนจะส่งลิ้นเข้าไปโรมรันอยู่ในโพรงปากของอีกคน
“อั่ก”
สะโพกและก้นงอนๆที่กระดกรัวตามแรงที่จงอินกระแทกส่งกายเข้าหาทำเอาพวกที่มองได้แต่กลืนน้ำลายและหัวเสียไปตามๆกัน
และยิ่งคนที่ได้ลิ้มลองความหอมหวานจากเรือนร่างนั้นมาแล้วอย่างเซฮุนก็ยิ่งเข้าใจว่าคิมจงอินจะมีความสุขมากเพียงใด
“ฮะ.ฮึก..อื้อออ”
หยาดน้ำสีขาวข้นที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากส่วนปลายของร่างเล็กมันเปรอะเปื้อนไปทั้งหน้าท้องของจงอิน
แต่คนที่ยังคงดูดปากแดงช้ำนั้นก็ไม่ได้ใส่ใจแต่อย่างใด
มือหนารั้งและยกเรียวขาให้พาดเกี่ยวกับเอวสอบของตนเองพ
ก่อนจะลูบมือไปทั่วแผ่นหลังบางและรวบกอดจนจุนมยอนแทบจมหายไปกับอก
ในขณะที่สะโพกก็กดกระแทกย้ำรัวๆเข้าไปในร่างนั้น
มือเล็กวางค้ำกับหน้าท้องแกร่งก่อนจะกระดกก้นรับแท่งเนื้อของจงอินเอาไว้ เสียงหอบหายใจถี่ของคนสองคนผสานกันดังก้องโรงยิมแห่งนี้
อ้อมแขนแข็งแรงรวบกอดคนตัวนิ่มเอาไว้แน่นซุกไซร้ใบหน้าลงไปกับซอกคอและกกหู
สูดกลิ่นหอมอ่อนๆเข้าปอดให้ชุ่ม
“ม..ไม่ไหวแล้ว..อะ..อ๊ะ”
จงอินกดกระแทกย้ำเข้าไปให้แรงยิ่งขึ้นและลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ มือที่ลูบหัวคนตัวเล็กลูบลงไปจนมาหยุดที่ก้นงอนๆ
ฟาดมือลงไปสองสามทีจนมันขึ้นรอยนิ้วมือด้วยความหมั่นเขี้ยว
ก่อนจะสอดนิ้วกลางแทรกเข้ามาทั้งที่แท่งความต้องการของตนยังคงส่งเข้าออกรัวและเร็ว
“ร้อนเชี่ยๆ” จงอินสบถในลำคอเพียงเท่านั้นก่อนจะโจนจ้วงเข้ามาแรงๆครั้งสุดท้ายพร้อมกับฉีดสาธยายน้ำอุ่นนั้นไว้ข้างในตัวของอีกคน
และก็เริ่มจะเข้าใจความรู้สึกของเซฮุนแล้วว่าการที่ไม่อยากผละหรือถอนกายออกไปมันเพราะอะไร
ชานยอลที่รอต่อคิวจ้องมองไอ้เพื่อนดำไม่วางตา คอยกดดันว่าเมื่อไหร่มันจะยอมถอนตัวออกมาจากจุนมยอนสักที
แต่รออยูพักใหญ่ไอ้จงอินก็ยังเอาแต่ถูไถน้องชายเข้าออกอย่างเนิบนาบราวกับว่ากำลังจะต่อก๊อกสอง
ถ้าเป็นครั้งอื่นก็คงจะยอมกันได้แต่เพราะในตอนนี้ที่กลางตัวของปาร์คชานยอลมันปวดหนึบจะแย่
ก็ต้องขอโทษทีที่จะยอมกันไม่ได้แล้วล่ะเพื่อน
“สัดจงอิน..อย่าลีลาลูกกูมันเต้นตุบๆแล้วเนี่ย”
[ต่อ]
คนถูกขัดจังหวะหันไปมองหน้าเจ้าของคำพูดตาขวางแต่ก็ยอมถอนส่วนนั้นออกมาอย่างขัดไม่ได้
โอบประคองร่างที่อ่อนแรงมาส่งให้ถึงมือเพื่อนชานยอลที่ยืนกัดฟันทนอยู่ข้างกับไอ้คริสที่บอกว่าจะไม่ขอร่วมในครั้งนี้
“หมั่นเขี้ยวว่ะ!”
ก่อนจะยอมส่งต่อให้ถึงมือเพื่อน จงอินก็เอื้อมมือไปขยุมก้นขาวๆและงับที่หัวไหล่เล็กจนคริสต้องปรามเอาไว้เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กแทบจะล้มทั้งยืนอยู่แล้ว
“มานี่สิคนเก่ง..” ชานยอลตวัดดึงเอาร่างที่ไร้เรี่ยวแรงเข้ามากอดเอาไว้พร้อมทั้งระดมจูบไปทั่วทั้งใบหน้าหวาน
แม้มือเล็กๆจะยกขึ้นผลักไสแต่ก็ไม่สามารถขยับหนีไปไหนได้
“ปล่อยเรา..ฮึก..ไปเถอะ”
ชานยอลก้มลงมองไปตามเรียวขาขาวที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำกามที่ไหลซึมออกมาจากช่องทางด้านหลัง
พร้อมกับจูบเบาๆข้างๆกกหู พลันสายตาก็ไปสะดุดกับคนที่ทำปากดีว่าจะไม่เอี่ยวที่นั่งอยู่ใกล้ๆ
แม้มือของคริสจะกำโทรศัพท์เอาไว้แน่นแต่ก็คงจะไม่รู้ตัวหรอกว่าสายตาของตัวเองจับจ้องอยู่กับเรือนร่างขาวของจุนมยอน
ชนิดที่เรียกได้ว่าแทบจะกลืนกินไปทั้งตัว
“จุนมยอนลองหันหน้าไปให้เพื่อนคริสเห็นชัดๆหน่อยสิครับ..”
เจ้าของชื่อที่ถูกพาดพิงนึกโมโหอยากจะกระโดดเอาตีนฟาดปากคนที่ยียวนกวนประสาทให้รู้แล้วรู้รอด
และก็คิดไม่ถึงด้วยว่าชานยอลมันจะจับพลิกร่างที่บอบช้ำให้หันหน้ามาทางเขา
“ไม่ต้องกลัวหรอกนะ..ไอ้คริสมันบอกว่าจะไม่ทำอะไรจุนมยอนนี่นา..” เสียงทุ้มที่กระซิบชิดใบหูนิ่มหากแต่ก็ดังพอที่จะให้เพื่อนทุกคนได้ยิน
ทำเอาทุกคนหลุดหัวเราะออกมา จะยกเว้นก็แต่คนที่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดปากบอกปฏิเสธทั้งๆที่ร่างกายของตนเองมีปฏิกริยาเสียขนาดนั้น
“ฮื้อ..เราม..ไม่ไหวแล้ว..ฮึก..” ใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาสะบัดหน้าหนีเมื่อถูกคนที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังบีบคางบังคับจูบ
และเมื่อถูกปฏิเสธแบบนั้นก็ทำเอาเส้นความอดทนที่จะใจเย็นกับคนตัวขาวนี้หมดลง
“กล้าปฏิเสธกูหรอ?”
เสียงครางต่ำในลำคอพร้อมกับมือหนาจิกกระชากเส้นผมคนในอ้อมแขนอย่างแรงแล้วลากลิ้นร้อนๆไปทั่วลำคอ
ยิ่งคนตัวเล็กสะอื้นมากเท่าไหน ฟันซี่คมก็จะไล่งับผิวขาวๆใกล้ๆลำคอนั้นมากขึ้น
มือหนารูดแท่งเนื้อร้อนสองสามที ก่อนจะใช้แขนเกี่ยวเอาขาเล็กให้ยกขึ้นแล้วกดส่วนปลายจ่อกับช่องทางที่มีคราบความสุขของเพื่อนๆที่ได้เล่นสนุกกับคนตัวขาวไปก่อนหน้านี้
พรมจูบไปทั่วใบหน้าหวานก่อนจะงับลงบนใบหูเล็กๆและกระแทกร่างเข้าไปอย่างแรงโดยไม่ถนอมหรือกลัวว่าจุนมยอนจะบอบช้ำไปกว่านี้เลยสักนิด
เสียงกรีดร้องจากความเจ็บปวดทำให้ชานยอลกระตุกยิ้มและเบนสายตาไปมองหน้าคริสที่จ้องช่องทางเบื้องล่างที่แดงช้ำไม่วางตา
“หึ”
ปาร์คชานยอลใช้มือข้างเดียวกับแขนที่เกี่ยวเรียวขาขาวขึ้นเพื่อเปิดช่องทางเบื้องล่างให้ตนเองได้โจนจ้วงเข้าไปถนัดขึ้นเอื้อมไปกุมกลางกายของคิมจุนมยอนและรูดเร้าปลุกอารมณ์ให้คนตัวเล็กมีอารมณ์ร่วม
พร้อมทั้งกอดล็อกคอบังคับให้ใบหน้าหวานๆหันมารับจูบที่ตนเต็มใจจะมอบให้
“ฮึก..อ..อะ” ริมฝีปากที่ผละออกจากกันเพียงชั่วครู่ประกบเข้าหากันอีกครั้ง
ชานยอลส่งลิ้นไปโรมรันพันเกี่ยวกับคนตัวขาวก่อนจะถอนริมผีฝากออกมาช้าๆ
หยดน้ำลายที่เชื่อมโยงเป็นสายทำให้คริสที่ทำได้แค่มองส่งมือไปลูบตรงกลางลำตัวของตนเองและสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อสะกดกั้นอารมณ์
“ฮะ..”
เรียวแขนเล็กข้างหนึ่งถูกดึงขึ้นมาพาดบนไหล่ของคนตัวสูงกว่า
ก่อนที่ใบหน้าหวานจะเอนซบลงไปอย่างหมดแรง ใบหน้าคมก็ซุกกับแผ่นอกขาวแล้วละเลงลิ้นไปทั่วลำตัวที่ชื้นเหงื่อ
จงใจเน้นหนักที่จุดเล็กๆบนแผ่นอก
“อ๊า..จ..เจ็บ..อึก..เจ็บ” จุนมยอนหลุดครางออกมาไม่ได้ศัพท์เมื่อแรงกระแทกกระทั้นของปาร์คชานยอลมันรุนแรงจนปวดไปหมด
แต่ก้นงอนๆก็ยังคงกระดกถี่รัวกลืนกินแท่งเนื้อร้อนเอาไว้รับกับจังหวะรุนแรงที่ถูกส่งเข้าหา
ลิ้นร้อนที่ละเลงเล่นกับยอดอกทำให้ดวงตาที่คลอไปด้วยน้ำตาต้องก้มมองสบกับคนที่ซุกใบหน้าอยู่กับอก
และก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่สายตาคมเฉียบของปาร์คชานยอลมองสบขึ้นมา
ปลายลิ้นที่สะกดตรงยอดอกและตวัดถี่รัวพร้อมกับกลีบปากได้รูปที่ดูดดึงแรงๆจนเกิดเสียงดังจ๊วบทำเอาคนตัวเล็กหอบจนตัวโยน
“อั่ก!..อ.อะ” แข้งขามันสั่นจนยากจะควบคุม สุดท้ายแล้วก็ต้องทรุดฮวบลงไปกองกับพื้น
แต่ส่วนที่ยังคงเชื่อมโยงร่างกายของคิมจุนมยอนและปาร์คชานยอลเอาไว้ทำให้ชานยอลต้องทรุดตัวลงตาม
ร่างขาวที่เต็มไปด้วยรอยแปดเปื้อนหมอบคว่ำหน้าอยู่กับพื้นอย่างน่าสงสารแต่เพราะไอ้กิจกรรมที่ยังคงค้างคาทำให้ชานยอลสอดมือเข้าไปตรงหน้าท้องขาวแล้วยกสะโพกขึ้น
ก่อนจะสายต่อกิจกรรมต่อไปด้วยการส่งกายเข้าหา
“ฮะ..ฮึก..”
เสียงสะอึกสะอื้นพร้อมกับมือเล็กๆที่ดันตัวเองขึ้นจากพื้น
แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะแรงกระแทกจากทางด้านหลัง ก่อนจุนมยอนจะคว้าไปถูกท่อนขายาวของใครสักคนที่อยู่ตรงหน้า
“สงสัยน้องแว่นเขาชวนมึงว่ะคริส”
รอยยิ้มร้ายของปาร์คชานยอลถูกส่งไปให้เพื่อนซี้
คริสรู้สึกเหมือนกำลังถูกล้อเลียนแต่ก็เพราะความอดทนของคนเรามันย่อมมีขีดกำจัด
แม้เขาจะตั้งปณิธานไว้ว่าจะไม่ขอร่วมในครั้งนี้
แต่การที่จุนมยอนมาเกาะแข้งเกาะขาอ้อนวอนเขาถึงที่เอง..อันนี้มันก็ช่วยไม่ได้จริงๆ
“อ๊ะ.ไม่..ม..ไม่”
คริสส่งต่อเจ้าสมาร์ทโฟนในมือให้กับเซฮุนก่อนจะโน้มตัวลงมาประคองไหล่เล็กให้ค่อยๆดันตัวขึ้นมาจากพื้นช้าๆ
แต่แรงกระแทกอย่างรุนแรงของปาร์คชานยอลทำเอาเรือนร่างบอบบางเสียหลักล้มเข้าใส่คนตัวสูงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไปเต็มๆ
“ไม่น่าใส่แว่นเลย”
โอเซฮุนเหลือบมองหน้าคริสที่พึมพำกับตนเองพร้อมทั้งไล้มือไปกับท่อนแขนเล็ก
ผิวเนียนลื่นมือทำให้คริสลูบมือไปมาก่อนจะลงน้ำหนักมือมากขึ้นจนผิวขาวๆขึ้นรอยแดง
“เรา..ฮึก..เจ็บ..”
หยดน้ำตาที่ไหลซึมออกมาทำให้คริสยกมือขึ้นไปปาดมันออกอย่างแผ่วเบา
แล้วลากสายตามองแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยรอยช้ำ
ก่อนจะหยุดอยู่ที่ก้นงอนๆที่เต็มไปด้วยรอยนิ้วมืออีกทั้งยังมีปาร์คชานยอลคอยเติมเต็มอยู่ไม่ขาด
“อมมัน..”
เป็นเสียงของชานยอลที่กระแทกอยู่ด้านหลังออกคำสั่งให้คนตัวเล็กกลืนกินไอ้ส่วนที่ตั้งชันของคริสเข้าไป
ไม่ต้องเสียเวลาคิดให้นานจุนมยอนก็ส่ายหน้ารัวๆพยายามจะดันตัวลุกขึ้นหนี
แต่มือหนาที่ลูบไล้อยู่กับแขนก็เปลี่ยนมากดท้ายทอยลงจนส่วนปลายมันทิ่มเข้ากับใบหน้าหวานๆ
“ทำสิ..”
เสียงทุ้มและทรงอำนาจของคริสออกคำสั่งพร้อมกับกดหัวคนตัวเล็กลงแรงๆ
สุดท้ายแล้วกลีบปากบางก็ต้องเผยอออกและส่งมันเข้าไปไว้ในโพรงปาก ความใหญ่โตของมันทำเอาจุนมยอนรู้สึกอยากจะอ้วกออกมา
ยิ่งยามที่คริสกระแทกเข้ามาภายในโพรงปากก็ทำเอาคนตัวเล็กสำลักจนน้ำหูน้ำตาไหล
“อ่อก!” จุนมยอนคายไอ้แท่งเนื้อร้อนนั้นออก
ก่อนจะช้อนสายตามองสบกับคนที่นั่งอยู่อย่างขอความเห็นใจ
“ถ้าทำให้ไอ้คริสมันเสร็จได้..เมื่อนั้นพวกเราก็จะปล่อยจุนมยอนนะ”
เสียงของชานยอลลอยเข้าหูมาพร้อมกับจังหวะกระแทกกระทั้นถี่รัวค่อยๆช้าลงหากแต่มันก็ถอนออกไปจนเกือบสุดและโจนจ้วงเข้ามาจนสุดความยาวเช่นกัน
“ลิ้นไงคนเก่ง..” เสียงของใครจุนมยอนก็สุดแต่จะรู้
เพราะไม่ว่ายังไงสุดท้ายแล้วเขาก็ต้องทำตามคำพูดเหล่านั้นอยู่ดี
มือเล็กๆเอื้อมไปลูบกับแท่งเนื้อร้อนที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะแลบลิ้นออกมาแตะไปอย่างคนไม่เคย
เรียวลิ้นเล็กลากไปจนสุดโคนพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคริส
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้ต่อว่าหรือไม่พอใจอะไรก็เลียไปรอบๆโคนเฉียดผ่านลูกกลมๆทั้งสองข้าง
จนคนที่ได้แต่นั่งนิ่งซี๊ดปากด้วยความเสียวซ่าน จังหวะที่กำลังดำเนินต่อชะงักลงเล็กน้อยเมื่อชานยอลมันไปถึงฝั่งฝันแล้ว
เพื่อนตัวสูงค่อยๆปล่อยสะโพกอวบลงแต่ก็ไม่ได้ถอนส่วนนั้นออกมา
ของเหลวขุ่นข้นที่ไหลซึมออกมาตามเรียวขาไม่ได้ทำให้ชานยอลสนใจเท่ากับการประคองกอดคนตัวเล็กให้ขยับเข้าไปใกล้หว่างขาของคริสมากขึ้น
มือใหญ่ๆเอื้อมไปกุมมือเล็กและบังคับให้ถูไถกับแท่งความต้องการของเพื่อน
“เลียตรงปลายสิ”
เสียงทุ้มของชานยอลกระซิบบอกอยู่ข้างหู
มันไม่ใช่แค่คำแนะนำเท่านั้นหากแต่มันเป็นคำสั่งที่คิมจุนมยอนต้องทำ
คนตัวเล็กแตะปลายลิ้นตรงส่วนปลายและนิ่งค้างไปไม่ยอมทำต่อ
ทำให้ชานยอลต้องกระตุ้นด้วยการกระแทกสะโพกแรงๆละขยี้ตรงยอดอกแรงของคนตัวขาวแรงๆ
เรียวลิ้นเล็กนั่นถึงยอมแตะสัมผัสต่อไป
“ตวัดลิ้นไปสิ..ทำแบบนี้น่ะ..”
เสียงกระซิบของคนเดิมดังขึ้นข้างหูพร้อมกับความร้อนและแฉะชื้นที่ข้างใบหู
ลิ้นร้อนๆของปาร์คชานยอลกำลังตวัดถี่รัวพร้อมกับขบเม้มใบหูเล็กๆจนขึ้นสีแดงจัด
พร้อมกับมือที่กดย้ำๆที่หัวและคำสั่งว่าให้ทำ!
จุนมยอนกลั้นก้อนสะอื้นก่อนจะหลับตาลงปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาแล้วแตะปลายลิ้นตวัดหยอกเล่นกับส่วนปลายของคริส
ก่อนจะต้องรับมันเข้ามาไว้ในโพรงปากอีกครั้ง ทำแบบนั้นซ้ำๆโดยไม่มีหนทางไหนให้จุนมยอนเลือกเลยนอกจากทำตามที่คนพวกนี้ต้องการ
จนกระทั่งของเหลวร้อนฉีดพ่นเข้ามาในโพรงปาก
คนตัวเล็กรีบผละออกและไอสำลักออกมาอย่างน่าสงสาร
พอสุขสมดั่งใจชานยอลก็ถอนส่วนนั้นออกไปแล้วลุกขึ้นจัดแจงเสื้อผ้าให้เข้าที่
โดยมีคริสที่รีดน้ำขุ่นคาวนั้นออกและดึงกางเกงขึ้นสวม ร่างเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยคราวความโสมมถูกปล่อยให้ล้มลงกองกับพื้น
“ขอบคุณสำหรับอะไรสนุกๆนะที่รัก..”
นั่นเป็นเสียงสุดท้ายที่จุนมยอนได้ยินก่อนที่สติสัมปชัญญะที่มีทั้งหมดจะดับวูบลงและแผ่นหลังของพวกคนเลวทรามทั้งสี่ที่เดินออกไปจากโรงยิมแห่งนี้
RrrrrrrrRrrrrrrrrrrrr
เสียงเรียกข้าโทรศัพท์ปลุกให้คนที่หมดสติไปตั้งแต่ช่วงเช้าสะดุ้งตื่นขึ้นมา จุนมยอนถดกายไปคว้าเจ้าเครื่องที่มันแผดเสียงร้องออกมาจากกระเป๋ากางเกงที่ถูดกอดทิ้งไปตั้งแต่แรก
เมื่อเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทก็ได้แต่ร้องไห้ออกมาระบายความขมขื่นที่เกิดขึ้นกับตนเอง
มือเล็กๆป่ายไปจนเจอกับแว่นสายตาที่เป็นตัวจุดชนวนเหตุครั้งนี้ขึ้น
นึกอยากจะขว้างปามันทิ้งแต่ก็ทำไมได้เพราะสายตาที่สั้นมากกว่าคนอื่นเกือบเท่าตัวทำให้คิมจุนมยอนต้องหยิบมันขึ้นสวมอีกครั้ง
ก่อนจะค่อยคลานไปกอบโกยเศษเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่
ชั้นในตัวบางที่ถูกฉีกขาดทำให้คนตัวเล็กทรงตัวขึ้นยืนอย่างยากลำบากแล้วสวมกางเกงนักเรียนขายาวเข้าไป
เสื้อเชิ้ตขาวที่กระดุมหลุดจนไม่สามารถติดได้ก็ถูกจับมาสวยลงบนร่างทั้งน้ำตา
คราบน้ำกามที่เปรอะเลอะไปทั้งเสื้อทำให้จุนมยอนนึกขยาดทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว
รวมทั้งรังเกียจตัวเองด้วยที่เกิดมาเป็นแบบนี้
เสื้อสูทนักเรียนตัวนอกถูกเอามาไว้ใช้คลุมลงบนร่างก่อนที่จุนมยอนจะพยายามลากขาเดินออกจากโรงยิมแห่งนี้ด้วยสภาพที่น่าอนาถเต็มทน..
เพราะปกติแล้วเด็กเรียนอย่างคิมจุนมยอนจะไม่เคยกลับมาถึงบ้านเร็วกว่าเวลาที่โรงเรียนกวดวิชาเลิกเลย
แต่ครั้งนี้ดันกลับมาตั้งแต่โรงเรียนยังไม่เลิกเลยด้วยซ้ำทำให้คนเป็นแม่อดจะถามไม่ได้
แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไรลูกชายที่เป็นเด็กดีมาโดยตลอดก็รีบวิ่งขึ้นห้องไปอย่างรวดเร็ว
สิ่งเดียวที่คนเป็นแม่คิดถึงอาการผิดปกติของลูกชายก็คือคงจะเรียนมากจนเครียดจึงไม่อยากเข้าไปรบกวน
“ฮึก..ฮึก..”
เรือนร่างที่บอบช้ำนั่งอยู่ใต้ม่านน้ำที่ไหลออกมาจากฝักบัว มือเล็กถูกับแขนและขากับตนเองอย่างแรงจนมันแดงเป็นรอยปื้นยาว
อยากจะล้างออกไปให้หมด ไอ้ความสกปรกพวกนี้..อยากจะลืมและลบมันออกไป
หลังจากใช้เวลาร่วมชั่วโมงอยู่ภายในห้องน้ำก็อาบน้ำแต่งตัวและขอเวลาให้ร่างกายและจิตใจตนเองได้พักผ่อนบ้าง
แต่เสียงเตือนข้อความเข้าที่จุนมยอนคิดว่าคงเป็นเพราะเพื่อนๆเป็นห่วง
จึงกดเปิดอ่านโดยไม่ทันคิดอะไร
ฉับพลันภาพและคลิปวิดีโอที่เขาถูกกระทำอย่างชั่วช้าเลวทรามก็ปรากฏขึ้นมาพร้อมกับคำขู่สั้นๆที่ว่า
‘ถ้าไม่อยากให้คลิปนี้ไปถึงอาจารย์และเพื่อนๆในโรงเรียน
พรุ่งนี้มาเจอกันตามที่อยู่นี้’
นิ้วเรียวแตะหน้าจอทัชสกรีนดูแผ่นที่ของสถานที่ดังกล่าว
ก่อนจะโยนโทรศัพท์ทิ้งลงบนเตียงและทรุดตัวลงนั่งร้องไห้ออกมาราวกับจะขาดใจ..
ทำยังไงคิมจุนมยอนถึงจะหลุดรอดจากเงื้อมมือของคนพวกนี้กัน..
tbc.
(นั่นสิทำยังไงกัน พี่คริสยังไม่ได้กินด้วย เลยจบไม่ได้ ถถถถถถถ )
5 Best Coin Casino Sites UK 2021 - CasinoWow
ตอบลบDiscover the best coin casino sites UK ⭐ All you need to know ⭐ Exclusive offers ✚ 카지노 Huge range of casino games to choose from.🥇 Best Coin Casino: Betway🥇 Best Gambling Site: Griffon Casino🤵 Best Bitcoin Casino: 888casino🥇 หาเงินออนไลน์ Best Mobile Casino: 인카지노 888🥇 Best Casino Bonus: Grand Ivy Casino💰 Most Legit Casino Site: Betfair