ฝ่ามือเล็กคว้าสะเปะสะปะ ก่อนข้อมือเล็กทั้งสองข้างจะถูกตรึงเอาไว้แนบกับผนัง
ริมฝีปากสีแดงสดถูกทาบทับด้วยกลีบปากได้รูปที่บดขยี้ลงมา ทั้งดูดดึง
ทั้งขบเม้มอย่างหื่นกระหาย
อาการขัดขืนของคนที่ต่อต้านหมดลงเมื่อสัมผัสชวนวาบหวิวบวกกับฤทธิ์ยาที่ผสานกัน
“ร้อน..” เสียงครางผะแผ่วทำเอาคนมองกดยิ้มลึก
ก่อนจะวางมือลงกับขอบกางเกงสกินนี่สีเข้มแล้วลากสัมผัสขึ้นมาตามชายโครง
เมื่อได้มาสัมผัสอย่างแนบชิดแล้วเขาถึงได้รู้ว่าคนตรงหน้าตัวเล็กมากขนาดไหน
แต่ผิวขาวๆที่ขึ้นรอยง่าย มันก็ชวนให้น่ารังแกน้อยเสียเมื่อไหร่
“ตรงนี้หรือเปล่าที่ร้อน..” ช่วงขายาวแทรกไปตรงกลางหว่างขาของคนที่กระสับกระส่ายจากความร้อนภายในร่างกาย
จงใจดันขาไปเบียดเสียดกับส่วนกลางลำตัวจนจุนมยอนทำได้ขยับปากร้องออกมาโดยไร้เสียง
“ลู่หาน..ช่วยด้วย”
แม้ความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นกับร่างกายมันยากเกินจะควบคุม
แต่จิตสำนึกก็ยังคงย้ำเตือนจุนมยอนเอาไว้ว่าเจ้าของร่างกายและหัวใจของเขามันคือลู่หานแค่คนเดียว
ต้องเป็นลู่หานเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ริมฝีปากร้อนผ่าวและฟันซี่คมที่ฝังลงแนบลำคอจนรู้สึกเจ็บแปล๊บ
และช่วงขายาวที่ขยับเข้ามาเสียดสีกลางลำตัวมากขึ้นกำลังทำให้คิมจุนมยอนสูญเสียความเป็นตัวเองไปโดยสิ้นเชิง
“ทำตัวไม่น่ารักเลย..อยู่กับผมแท้ๆทำไมกล้าพูดชื่อคนอื่นละครับคนสวย..” มือหนาวางลงกับบั้นเอวแล้วบีบเค้นเบาๆ
ดึงรั้งชายเสื้อเชิ้ตตัวบางให้หลุดออกมาจากขอบกางเกง
พร้อมกับค่อยๆไต่มือไล่เข้าไปสัมผัสผิวเนื้อเนียนนุ่มลื่นมือ
“นาย..” เรี่ยวแรงที่เคยมีมันเหือดหายไปหมด
ยามที่ถูกกดจูบจากลำคอไล่ไปจนถึงข้างกกหู
จงอินกำลังหลงใหลกับเรือนร่างขาวที่สะท้อนกับแสงไฟ
อีกทั้งยังหอมหวานจนไม่สามารถผละออกมาได้เลย
เป็นราวกับยาเสพติดชนิดร้ายแรงที่ลิ้มลองเพียงแค่ครั้งเดียวก็ติดงอมแงมชนิดที่ว่าถ้าหากต้องตายไปเพราะเสพติดมากเกินไป
คิมจงอินคนนี้ก็ยินดี..
“.......”
เรียวแขนเล็กที่ก่อนหน้านี้ขัดขืนและจะทำร้ายร่างกายคนตัวสูง
แต่เมื่อถูกฤทธิ์ยาและสุรามอมเมาเข้าจุนมยอนกลับทำเพียงแค่ยกสองแขนนั้นโอบกอดรอบลำคอของคนที่กำลังดูดดึงและงับริมฝีปากล่างของเขาจนเห่อชา
ร่างกายที่ขยับแนบชิดกันมากยิ่งขึ้นยามเมื่อจุนมยอนไม่ขัดขืนอีกต่อไปทำให้จงอินกระหยิ่มยิ้มย่องกับตนเอง
ก็บอกไปแล้วว่าอะไรที่เขาอยากได้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร และด้วยวิธีไหน
คิมจงอินคนนี้ก็ต้องได้มันมาให้ได้
รวมไปถึงเรือนร่างบอบบางเจ้าของผิวเนียนละเอียดและนุ่มลื่นมือที่เขาหมายตาเอาไว้
ในคราแรกที่มองเห็นเผิวเนื้อขาวๆที่โผล่วับแวมๆออกมาตามรอยขาดของกางเกง
หรือจากเสื้อเชิ้ตตัวบางยามที่เจ้าตัวขยับแล้วมันเปิดให้เห็นความขาวที่ซ่อนอยู่ภายใน
คิมจงอินคิดเอาไว้ว่าถ้าหากได้สัมผัสด้วยมือตัวเองมันคงจะดีไม่น้อย แต่ในตอนนี้ที่ได้ลิ้มลองจริงๆมันกลับเป็นอะไรที่มากกว่านั้นเยอะ
“ในนี้มันหนวกหู
เราออกไปข้างนอกกันดีไหมครับ?” เสียงทุ้มกระซิบชิดใบหู
พร้อมกับประคองพาร่างที่ถูกมอมเมาเดินออกไปจากที่อโคจรแห่งนี้
แขนยาวตวัดกอดเอวบางพร้อมกับดึงรั้งให้คนตัวเล็กเข้ามาแนบชิดไม่วายจะส่งมือไปลูบไล้แถวๆหน้าท้องขาวเนียนทันทีที่มีโอกาส
แม้แต่ละก้าวเดินมันจะค่อนข้างทุลักทุเลเพราะคนตัวเล็กไม่มีเรี่ยวแรงที่จะเดินไป
แต่คิมจงอินก็ไม่ได้รีบร้อนหรือหงุดหงิดอะไรอย่างที่ควรจะเป็น
“ผลั่ก!”
กว่าจะพากันออกมาถึงลานจออดรถได้ก็ใช้เวลาอยู่พอสมควร แต่เมื่อมาถึงเพียงแค่ปล่อยมือออกร่างของจุนมยอนก็ล้มลงไปแต่โชคดีที่ว่าล้มลงไปบนกระโปรงหน้ารถคันหรู
จึงทำให้ไม่เจ็บเท่าไหร่นักแต่ยังไม่ทันที่จะได้ประคองตัวเองขึ้นทรงตัวยืนอีกครั้งก็ถูกคนที่พาออกไปจับพลิกกายจนแผ่นหลังแนบสนิทไปกับฝากระโปรงหน้ารถ
“ฉัน..ร้อน...” เสียงครางแผ่วหลุดออกมาจากริมฝีปากที่แดงช้ำทำให้คิมจงอินต้องโน้มลงไปย้ำจูบซ้ำๆด้วยความหื่นกระหายก่อนจะเอื้อมมือไปปลดกางเกงสกินนี่ช้าๆดึงรั้งมันให้หลุดจากสะโพกอวบอิ่มเพียงเล็กน้อยก่อนจะสอดมือผ่านชั้นในเข้าไปสัมผัสกับเนื้อแท้ที่ซ่อนอยู่ภายในนั้น
“ฮะ..” แววตาคมดุจเหยี่ยวที่กำลังจ้องจะตะครุบเหยื่อที่อยู่เบื้องล่างกำลังจ้องมองกระต่ายตัวขาวที่ผวาเข้ามาดึงรั้งเสื้อของเขาเอาไว้จนมันยับย่น
และยิ่งยามที่เรียวนิ้วทั้งห้าของจงอินของลูบไล้และปลุกปั้นจนส่วนกลางกายมันกำลังดันสู้มือขึ้นมาอย่างช้าๆเสียงลมหายใจที่หอบถี่ของจุนมยอนก็ยิ่งทำให้เขาได้แต่ท่องบอกตัวเองเอาไว้ว่าให้ใจเย็นๆ
“อย่ายั่วผมแบบนั้นสิครับ..” รอยยิ้มร้ายวาดอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติ
ก่อนที่มืออีกข้างจะไต่ลงไปบีบเค้นเนินเนื้อเบื้องหลัง
นิ้วกลางที่สอดผ่านเข้าไปทำให้คนที่ไม่คุ้นชินกับมันพยายามต่อต้านแต่ก็ต้องแพ้อย่างราบคาบเมื่ออุ้งมือใหญ่ที่กุมอยู่ด้านหน้ากำลังรูดเร้าถี่รัวขึ้น
จุนมยอนหลุดเสียงครางออกมายามที่ใบหน้าหล่อเลื่อนต่ำลงมา
และลิ้นร้อนกำลังสัมผัสตัวตนของเขา
ลมหายใจถี่รัวมากยิ่งขึ้นยามที่ปลายลิ้นตวัดอยู่กับส่วนปลาย
ความทรมานที่ยังไม่ได้รับการปลดปล่อยทำให้จุนมยอนบิดหน้าขาไปมา
พยายามจะขยับหนีแต่ก็ถูกมือใหญ่ตรึงเอาไว้ให้แยกออกจากกัน ริมฝีปากที่ดูดกลืนและรับส่วนนั้นเข้าไปมันทำให้จุนมยอนเอนตัวลงราบไปกับฝากระโปรงรถ
ยามที่ฟันซี่คมครูดกับส่วนนั้นและริมฝีปากที่รูดเร้าเร่งจังหวะ
จุนมยอนก็ทำได้แค่ส่งมือไปกดศีรษะนั้นให้เข้ามาสัมผัสกับตัวตนของตนแนบชิดยิ่งขึ้น
“ฮะ..อึก..” เสียงเครื่องยนต์ที่กำลังขับเคลื่อนผ่านมาทางนี้ทำให้จุนมยอนถีบขาตัวเองผลักคนที่กำลังเล่นสนุกกับร่างกายของตนให้ถอยห่างออกไป
พยายามตะเกียกตะกายที่จะหนีไปแต่ก็ถูกดึงรั้งให้กลับมาอีกครั้ง เรือนร่างบอบบางถูกผลักไปจนชนกับประตูรถคันเดิมที่เจ้าของมันไม่คิดจะใส่ใจที่จะขับกลับไปไหน
“ปล่อย..ฉัน..ไป...”
บานประตูรถถูกกระชากเปิดออกแต่จุนมยอนก็พยายามประคองสติเอาไว้ไม่ยอมก้าวขึ้นไปอย่างที่อีกคนอยากให้เป็น
จงอินจึงวาดแขนโอบกอดร่างบางจากทางด้านหลัง ปลายจมูกก็ไล่สูดดมไปตามท้ายทอยและซอกคอขาวด้วยความหลงใหลในขณะที่ก็สอดข้อนิ้วยาวเข้าไปในช่องทางเบื้องหลัง
กดย้ำเข้าไปจนมือเล็กๆต้องเอื้อมไปเกาะยึดกับหลังคารถเอาไว้แทน
“อย่าลืมสิครับ
เราตกลงอะไรกันไว้?”
นิ้วที่สองที่สอดแทรกเข้ามาพร้อมกับความลึกจนแข้งขาเริ่มจะสั่น แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจงอินจะยอมถอนนิ้วออกไปเลยแม้แต่นิด
แรงกดย้ำจากข้อนิ้วยาวๆที่ส่งเข้าออกทำให้สะโพกอิ่มขยับรับอย่างไม่ตั้งใจ
และใบหน้าหล่อที่ถอนออกจากซอกคอทำให้จุนมยอนหายใจได้โล่งเปราะหนึ่ง
แต่ทันทีที่คนตัวสูงคุกเข่าลงไปแล้วกระชากกางเกงสกินนี่พร้อมกับชั้นในจนมันหลุดไปกองอยู่ที่หัวเข่าพร้อมกับใบหน้าที่ซุกลงมากับบั้นท้ายทำให้จุนมยอนตกใจจนทำอะไรแทบไม่ถูก
“อ..อย่า..” มือเล็กพยายามเอื้อมมาปัดป้อง
แต่จงอินก็ปัดออกก่อนจะแทรกลิ้นร้อนไล่ไปตามรอยแยกนั้น
มือหนาบีบจนผิวเนื้อขาวๆขึ้นรอยแดง พร้อมกับแยกเรียวขาขาวออกจากกันตวัดปลายลิ้นรัวจนจุนมยอนเผลอร่อนสะโพกรับ
ทั้งที่กระดากอายจนเกินทน
แต่ร่างกายกับทรยศจนต้องงับลงบนท่อนแขนของตัวเองที่วางพาดอยู่กับหลังคารถเพื่อเก็บเสียงน่าอายที่จะหลุดรอดออกมา
“ฮะ..”
เรือนร่างบอบบางเซไปข้างหน้าเมื่อความใหญ่โตและคับแน่นกำลังสอดแทรกเข้ามาแทนเรียวนิ้ว
จงอินเอื้อมมือไปจับบริเวณต้นขาขาวๆข้างหนึ่งก่อนจะจับยกขยับให้วางพาดขึ้นไปกับเบาะบนรถ
แล้วดันสะโพกกดส่วนนั้นให้เข้าไปลึกมากอย่างขึ้น
“ถ้าเกร็งจะเจ็บนะที่รัก..”
เสียงแหบพร่ากระซิบข้างหูตามมาด้วยมือหนาที่เอื้อมมากุมข้างแก้มบังคับให้จุนมยอนหันมารับจูบอย่างเอาแต่ใจ
มืออีกข้างลูบไปบนเชิ้ตตัวบางที่ยังติดกายอยู่แกล้งสะกิดเขี่ยตรงยอดอกผ่านเนื้อผ้าบางเบา
อาศัยจังหวะที่คนตัวเล็กกำลังมัวเมาและเผลอไผลไปกับสัมผัสเหล่านั้น กดสะโพกกระแทกเข้าไปจนร่างบอบบางสั่นคลอนไปตามแรงอารมณ์
“ฮะ..อึก..”
แท่งเนื้อร้อนที่ส่งผ่านเข้ามา ค่อยๆดันตัวเข้าออกช้าๆ ก่อนจะถี่รัวขึ้นเรื่อยๆ
เรียวขาข้างที่พาดอยู่กับเบาะรถก็ไม่สามารถขยับลงได้เมื่อจงอินใช้แขนข้างหนึ่งจับล็อกเอาไว้
ริมฝีปากแดงๆถูกบดขยี้อีกครั้งพร้อมกับเรียวลิ้นเล็กๆที่ถูกดูดดึงจนเกิดเสียงสะท้อนก้องอยู่ภายในหูของคนทั้งสอง
ร่างกายที่ผสานกันก็ยังขยับรับส่งกันอย่างต่อเนื่องจนรถคันหรูที่ถูกใช้มันเป็นหลักยึดสั่นคลอนไปตามแรง
“เรียกชื่อผมสิ..”
มือหนาปัดป่ายลงไปกอบกุมส่วนที่ยังรอการปลดปล่อยของคนตัวเล็ก
ใช้เรียวนิ้วกอบกุมและช่วยรูดเร้าให้ในขณะที่ก็ยังไม่ได้ผ่อนแรงที่กระแทกเข้าไปในเรือนร่างอันหอมหวานนี้เลยแม้แต่นิด
“จงอิน..ฉ..ฉัน..” เสียงครางกระเส่ากำลังทำให้คิมจงอินกดผละออกอย่างรวดเร็ว
เอื้อมมือไปจัดแจงปรับเบาะหนังนุ่มๆให้ขยับออกก่อนจะก้าวขึ้นไปนั่งแล้วรั้งเอาอีกคนขึ้นมาซ้อนอยู่บนตัว
เรียวขาขาวๆทีคร่อมอยู่บนตักยิ่งมองเขาก็ยิ่งต้องลอบกลืนน้ำลายลงคอไปหลายอึก
พอส่งมือไปดึงรั้งกางเกงที่มันอยู่ที่หัวเข่าให้หลุดออกไปจากเรียวขาขาวก็ได้รับความร่วมมือจากเจ้าของของมันอย่างดี
“......” ไม่มีคำพูดใดจากคนทั้งสอง
จุนมยอนยกตัวขึ้นก่อนจะค่อยๆกดตัวลงรับตัวตนของจงอินไปอย่างช้าๆ
ยอมรับว่าตอนที่ได้อยู่ในร่างกายที่อุ่นร้อนราวกับจะเผาผลาญทุกอย่างตรงหน้าให้มลายหายไปว่าสุขแล้ว
แต่การที่ได้มามองสีหน้าของอีกฝ่ายตรงๆและชัดเจน มันสุขสมยิ่งกว่า
“จุนมยอน..ขยับสิ” มือเล็กไต่จากแผ่นอกหนาค่อยๆโอบและคล้องแขนไว้กับลำคอของคนออกคำสั่ง
ดวงตาฉ่ำปรือก้มลงมองสบตาจงอิน ก่อนจะขยับไปยามที่ส่วนปลายมันกดเข้าไปลึกและถูกจุดกระสันใบหน้าหวานๆก็จะเหยเกเล็กน้อยพร้อมกับฟันซี่เล็กที่ขบกัดริมฝีปาก
มองดูแล้วก็ทำเอาใจแกว่งจนคิมจงอินคนนี้ไม่สามารถทนนั่งนิ่งๆอย่างเดียวได้อีกต่อไป
มือหนาเอื้อมไปปลดกระดุมเชิ้ตตัวบางบนเรือนร่างสวยงามให้หลุดออกแต่ก็ไม่ได้ดึงรั้งให้มันหลุดออกจากเรือนร่างขาวกระจ่างไป
ทำเพียงแค่แหวกสาบเสื้อออกแล้ววาดเรียวลิ้นไปกับยอดอกทั้งสองข้าง
แขนยาวๆเอื้อมไปโอบกอดพร้อมกับกดแผ่นหลังให้คนบนตัวแนบชิดยิ่งขึ้น
ในขณะที่สะโพกก็ส่งรับและไสกายเข้าไปในร่างของอีกคนอย่างไม่ยอมแพ้
เสียงลมหายใจหอบถี่และเสียงครางงึมงำด้วยความพึงพอใจดังก้องไปทั่วรถ
ยอมรับว่าเขาถูกใจจุนมยอนตั้งแต่มองครั้งแรก
และยิ่งได้เข้ามาสัมผัสและแนบชิดแบบนี้ก็ยิ่งหลงใหลและถูกใจมากยิ่งขึ้นไปอีก
เห็นทีว่าคงจะให้ปล่อยผ่านไปและจบทุกอย่างไว้เพียงแค่คืนนี้ไม่ได้แล้วล่ะ..
ทั้งที่ได้มาครอบครองแล้ว..ก็ยิ่งอยากได้มากขึ้นไปอีก
ความรู้สึกที่มาเติมเต็มมันทำให้จุนมยอนไม่มีสติพอที่จะมานั่งแยกแยะว่าสิ่งที่กำลังทำและเป็นอยู่ตอนนี้มันควรทำกับคนรักเพียงเท่านั้น
ร่างกายที่ถูกคิมจงอินสัมผัสแทบทุกส่วนมันกำลังคุ้นชินและรู้สึกดีจนช่วยเยียวยาความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่ถูกคนรักหมางเมินได้มากพอดู
“เบาสิ..”
หลังจากที่ถูกพามาเข้ามาในห้องซึ่งจุนมยอนก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะถามออกไปว่าที่นี่คือที่ไหน
แต่รู้ว่าทันทีที่ก้าวเข้ามาก็ถูกโถมกายเข้าหาจนแทบล้มไปกองกับพื้น
“อะไรนะ..ผมได้ยินไม่ค่อยถนัด” รอยยิ้มร้ายที่วาดขึ้นทำให้จุนมยอนกำลังรู้สึกถึงภัยที่กำลังคืบคลานเข้ามา
พยายามประคับประคองสติที่มีอยู่น้อยนิดพาตัวเองให้วิ่งหนี
แต่ก็ถูกคนที่แรงมากกว่ารั้งกอดแล้วกระชากเสื้อผ้าทุกชิ้นที่มีอยู่ติดกายออก
พร้อมกับถูกออกคำสั่งให้เขาเป็นฝ่ายปลดเปลื้องเสื้อผ้าคืนให้ด้วย
“เดี๋ยวสิ!”
เสียงหวานร้องปรามออกมาเมื่อยังไม่ทันที่จะเอื้อมมือไปปลดกระดุมเชิ้ตของจงอิน
อีกฝ่ายก็ซุกใบหน้าลงมาหาเศษหาเลยอยู่ข้างซอกคอแล้วลูบมือวนกับบั้นท้ายกลมกลึงก่อนจะฟาดลงไปจนมันขึ้นรอยแดง
“อ๊ะ..มันไม่ถนัด..นี่คิมจงอิน!” มือหนาปลดตะขอกางเกงของตนเอง
พร้อมกับเตะออกจากขาไปด้วยความรำคาญ
ก่อนจะเอื้อมมือไปกุมมือนุ่มๆให้มาสัมผัสกับส่วนกลางกายของตนเอง
ไม่น่าเชื่อว่าแค่อุ้งมือเล็กๆที่มาสัมผัสก็ทำให้ท้องไส้เขาปั่นป่วนไปหมด ร่างกายคิมจุนมยอนเป็นเหมือนกับเหล้าดีกรีแรงๆยามที่ส่งผ่านลำคอไปก็ทำเอารู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งท้อง
“แบบไหนจะถนัดล่ะครับ..หืม?”
ช่วงขายาวพาเอาคนตัวลงมาล้มลงนั่งด้วยกันที่โซฟากลางห้องโถง
ก่อนจะสะบัดเสื้อเชิ้ตบนร่างกายตนเองออกไป
ลอบมองเรือนร่างขาวผ่องที่ต้องไฟและมีรอยแดงเป็นจ้ำๆที่เขาทำเอาไว้ก่อนหน้านี้
ถ้าให้หาคำจำกัดความกับภาพตรงหน้าที่เห็นตอนนี้ก็คงจะเป็นคำว่า..สวย ไม่กี่ครั้งหรอกที่เขาจะใช้คำนี้กับผู้ชาย และบังเอิญจุนมยอนก็เป็นคนที่เขากล้าพูดออกมาได้เต็มปากว่าสวยจริงๆ
“อืม...” มือหนาลูบไล้วนตรงต้นขาขาวๆก่อนจะรั้งเอาคนตัวนิ่มให้มานั่งคร่อมอยู่บนตัก
มืออีกข้างก็ยังกุมมือเล็กให้สัมผัสร่างกายตนเองที่มันกำลังดันตัวขึ้นมาอย่างช้าๆ
ยิ่งมือนุ่มๆถูไถสัมผัสไปมา จงอินก็ยิ่งรู้สึกดีจนต้องหลับตาลงแล้วผ่อนลมหายใจเข้าออกช้าๆ
“ตรงนั้น..”
เสียงหวานที่ครางผ่าวทำให้จงอินเปิดเปลือกตาขึ้นมองอีกครั้ง
เม็ดเหงื่อที่เกาะพราวอยู่ตามไรผม
อีกทั้งสีหน้าที่แสดงความอึดอัดและทรมานทำให้เขาต้องรั้งท้ายทอยเข้ามาก่อนจะไล่งับกลีบปากที่แดงช้ำของคนตัวขาวอีกครั้ง
ลิ้นเล็กแลบออกมาแตะที่กลีบปากอย่างอ้อยอิ่งราวกับกำลังรอคอยสัมผัสจากเขา
และในเมื่ออีกฝ่ายเปิดทางให้กันคิมจงอินคนนี้ก็พร้อมสนองให้
“.....”
ลิ้นที่โรมรันพันเกี่ยวกันพร้อมกับมือของคนทั้งคู่ที่เกี่ยวสลับกันอยู่กับแท่งเนื้อร้อนของตน
จุนมยอนสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมือใหญ่ๆรวบส่วนกลางกายทั้งของตนเองและของเขาเข้าไปไว้ในมือ
พร้อมกับขยับรูดเร้ามันไปพร้อมๆกัน
ผิวเนื้อที่เสียดสีกับอุ้งมือใหญ่และยังเสียดสีอยู่กับสิ่งเดียวกันทำให้จุนมยอนซบหน้าลงไปกับซอกคอของจงอินอย่างหมดเรี่ยวแรง
“อ๊ะ..จง..อิน..”
เจ้าของชื่อยกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจที่เห็นคุณหนูตัวขาวผู้หยิ่งยโสโอหังกำลังสิโรราบให้กับตนเอง
ยิ่งขยับมือเร็วขึ้นเรือนร่างบอบบางก็จะขยับเข้ามาเบียดเสียดสียิ่งขึ้น
ฝ่ามือเล็กๆของจุนมยอนแตะกุมทับกับหลังมือใหญ่ของจงอินช่วยกันประคับประคองปลุกปั้นให้ได้ปลดปล่อยห้วงอารมณ์นั้นไปพร้อมๆกัน
“ฮะ..อึก..”
ลำคอขาวที่ล่อตาล่อใจถูกจงอินโน้มลงไปงับและดูดดึงจนขึ้นรอยสีกุหลาบอยู่ประปราย
เสียงครางชื่อของตนเองที่หลุดออกมาจากริมฝีปากแดงช้ำคู่นั้นทำให้จงอินเร่งจังหวะที่อุ้งมือทั้งให้เร็วยิ่งขึ้น
จนกระทั่งหยาดน้ำขุ่นขาวซึมออกมาจากส่วนปลาย จึงโน้มตัวไปกระซิบข้างใบหูขาวว่าให้ทำต่อเองได้ใช่ไหม
สิ่งก็ได้คำตอบรับเป็นการพยักหน้าจนเรือนผมสีน้ำตาลเข้มพริ้วไหวไปตามมองดูน่ารักน่าชัง
น่ารังแกและขย้ำให้จมกรงเล็บเสียเหลือเกิน
“.....”
เมื่ออุ้งมือเล็กๆที่สานต่อกิจกรรมส่งให้คนทั้งคู่ปลดปล่อยออกมาแล้ว
จุนมยอนก็ละมือออกแล้ววางลงไปแนบกับแผ่นอกหนาราวกับหาที่พึ่งพิง แต่กลับถูกฉกฉวยมือไปกุมไว้
ริมฝีปากได้รูปไล่งับเรียวนิ้วทั้งห้าที่เปรอะเปื้อนน้ำขุ่นคาว ก่อนจะแลบลิ้นออกมาเลียทำความสะอาดให้เล่นทำเอาคนบนตักเบิกตากว้าง
พยายามจะรั้งมือกลับ
“อยู่เฉยๆสิ”
เสียงทุ้มที่ติดดุแต่ไม่จริงจังนักทำให้จุนมยอนทำได้แค่มองการกระทำของคิมจงอินด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก
กับลู่หานผู้ชายคนนั้นไม่เคยสนใจหรือใส่ใจเขาขนาดนี้เลยด้วยซ้ำ แล้วกับคนคนนี้...
“ทำไมคุณมันถึงได้น่ากินไปทั้งตัวแบบนี้นะ”
ทั้งที่พูดออกไปริมฝีปากก็ไล่งับไปตามท่อนแขนเล็ก
กดจูบย้ำๆสร้างรอยรักเอาไว้ทุกบริเวณที่ริมฝีปากลากผ่านไป จวบจนกระทั่งหยุดอยู่ที่ยอดอกที่ตั้งชัน
เรียวลิ้นร้อนไล่ไปตามรอบฐานยอดอกก่อนจะตวัดลิ้นหยอกล้อเล่นกับส่วนปลาย
แกล้งเล่นอยู่แบบนั้นจนจุนมยอนต้องแอ่นอกรับและใช้ท่อนแขนเล็กไขว่คว้าโอบกอดรอบลำคอเอาไว้
“ถ้าคุณเป็นแฟนผม..ผมไม่มีทางทำแบบไอ้บ้านั่นแน่ๆ”
เรียวแขนเล็กที่โอบรัดแน่นขึ้นทำให้จงอินเลือกที่จะไม่พูดเรื่องที่ชวนให้เสียบรรยากาศแบบนั้น
ก่อนจะค่อยๆขยับดันส่วนที่กำลังแสดงความต้องการอย่างชัดเจนให้หายเข้าไปในช่องทางเบื้องหลังที่เสียดสีอยู่กับหน้าขาของเขา
“แต่นายไม่ใช่ไง..” ถ้อยคำต่อล้อต่อเถียงยังมีให้ได้ยินไม่ขาดปาก
แม้กระทั่งในตอนที่จงอินกดส่วนปลายฝังเข้าไปในร่าง เสียงด่าทอหรือดูถูกแปรเปลี่ยนเป็นเสียงครางในที่สุดเมื่อสองร่างที่กอดก่ายกันอยู่บนโซฟาตัวใหญ่
ขยับกายส่งรับกันอย่างรู้หน้าที่ เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังก้องไปทั่วทั้งห้องและเสียงโซฟาที่สั่นคลอนก็ไม่ได้ช่วยหยุดให้คนสองคนที่กำลังดำดิ่งไปสู่ห้วงอารมณ์หยุดมันลงเลยแม้แต่นิด
เสียงบดจูบ
ขบกัด และกระแทกกายเข้าออกย้ำๆ ซ้ำๆ หนักหน่วงสลับเบา ยังคงดำเนินต่อไป
โดยที่คนทั้งคู่หลงลืมและโยนทุกสิ่งทุกอย่างเอาเบื้องหลัง
แม้กระทั่งความเป็นจริงที่ว่า ตัวจริงของเขาทั้งคู่อาจจะรอพวกเขาอยู่ที่บ้านก็ตามที
แต่จะให้ทำยังไงได้เรือนร่างของคิมจุนมยอนมันดึงดูดเขาจนไม่สามารถถอนตัวออกมาได้จริงๆ
ต้องขอโทษและขอบคุณไอ้หน้าโง่ที่ชื่อลู่หานอะไรนั่นจริงๆที่ละเลยแฟนตัวเองจนตกมาถึงมือเขาในที่สุด..
ช่วยไม่ได้จริงๆว่ะ...
กลับไปเม้นที่หน้าเด็กดีนะคะ ^^ >> Dek-d<<
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น