หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2557

[SF] Kai x Suho - Cheat 1-2



               


              ฝ่ามือเล็กคว้าสะเปะสะปะ ก่อนข้อมือเล็กทั้งสองข้างจะถูกตรึงเอาไว้แนบกับผนัง ริมฝีปากสีแดงสดถูกทาบทับด้วยกลีบปากได้รูปที่บดขยี้ลงมา ทั้งดูดดึง ทั้งขบเม้มอย่างหื่นกระหาย อาการขัดขืนของคนที่ต่อต้านหมดลงเมื่อสัมผัสชวนวาบหวิวบวกกับฤทธิ์ยาที่ผสานกัน
  

                “ร้อน..”  เสียงครางผะแผ่วทำเอาคนมองกดยิ้มลึก ก่อนจะวางมือลงกับขอบกางเกงสกินนี่สีเข้มแล้วลากสัมผัสขึ้นมาตามชายโครง เมื่อได้มาสัมผัสอย่างแนบชิดแล้วเขาถึงได้รู้ว่าคนตรงหน้าตัวเล็กมากขนาดไหน แต่ผิวขาวๆที่ขึ้นรอยง่าย มันก็ชวนให้น่ารังแกน้อยเสียเมื่อไหร่


“ตรงนี้หรือเปล่าที่ร้อน..”  ช่วงขายาวแทรกไปตรงกลางหว่างขาของคนที่กระสับกระส่ายจากความร้อนภายในร่างกาย จงใจดันขาไปเบียดเสียดกับส่วนกลางลำตัวจนจุนมยอนทำได้ขยับปากร้องออกมาโดยไร้เสียง


“ลู่หาน..ช่วยด้วย”   แม้ความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นกับร่างกายมันยากเกินจะควบคุม แต่จิตสำนึกก็ยังคงย้ำเตือนจุนมยอนเอาไว้ว่าเจ้าของร่างกายและหัวใจของเขามันคือลู่หานแค่คนเดียว ต้องเป็นลู่หานเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ริมฝีปากร้อนผ่าวและฟันซี่คมที่ฝังลงแนบลำคอจนรู้สึกเจ็บแปล๊บ และช่วงขายาวที่ขยับเข้ามาเสียดสีกลางลำตัวมากขึ้นกำลังทำให้คิมจุนมยอนสูญเสียความเป็นตัวเองไปโดยสิ้นเชิง


“ทำตัวไม่น่ารักเลย..อยู่กับผมแท้ๆทำไมกล้าพูดชื่อคนอื่นละครับคนสวย..”   มือหนาวางลงกับบั้นเอวแล้วบีบเค้นเบาๆ ดึงรั้งชายเสื้อเชิ้ตตัวบางให้หลุดออกมาจากขอบกางเกง พร้อมกับค่อยๆไต่มือไล่เข้าไปสัมผัสผิวเนื้อเนียนนุ่มลื่นมือ


“นาย..”  เรี่ยวแรงที่เคยมีมันเหือดหายไปหมด ยามที่ถูกกดจูบจากลำคอไล่ไปจนถึงข้างกกหู จงอินกำลังหลงใหลกับเรือนร่างขาวที่สะท้อนกับแสงไฟ อีกทั้งยังหอมหวานจนไม่สามารถผละออกมาได้เลย เป็นราวกับยาเสพติดชนิดร้ายแรงที่ลิ้มลองเพียงแค่ครั้งเดียวก็ติดงอมแงมชนิดที่ว่าถ้าหากต้องตายไปเพราะเสพติดมากเกินไป คิมจงอินคนนี้ก็ยินดี..


“.......”  เรียวแขนเล็กที่ก่อนหน้านี้ขัดขืนและจะทำร้ายร่างกายคนตัวสูง แต่เมื่อถูกฤทธิ์ยาและสุรามอมเมาเข้าจุนมยอนกลับทำเพียงแค่ยกสองแขนนั้นโอบกอดรอบลำคอของคนที่กำลังดูดดึงและงับริมฝีปากล่างของเขาจนเห่อชา 


ร่างกายที่ขยับแนบชิดกันมากยิ่งขึ้นยามเมื่อจุนมยอนไม่ขัดขืนอีกต่อไปทำให้จงอินกระหยิ่มยิ้มย่องกับตนเอง ก็บอกไปแล้วว่าอะไรที่เขาอยากได้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร และด้วยวิธีไหน คิมจงอินคนนี้ก็ต้องได้มันมาให้ได้ รวมไปถึงเรือนร่างบอบบางเจ้าของผิวเนียนละเอียดและนุ่มลื่นมือที่เขาหมายตาเอาไว้ 


ในคราแรกที่มองเห็นเผิวเนื้อขาวๆที่โผล่วับแวมๆออกมาตามรอยขาดของกางเกง หรือจากเสื้อเชิ้ตตัวบางยามที่เจ้าตัวขยับแล้วมันเปิดให้เห็นความขาวที่ซ่อนอยู่ภายใน คิมจงอินคิดเอาไว้ว่าถ้าหากได้สัมผัสด้วยมือตัวเองมันคงจะดีไม่น้อย แต่ในตอนนี้ที่ได้ลิ้มลองจริงๆมันกลับเป็นอะไรที่มากกว่านั้นเยอะ


“ในนี้มันหนวกหู เราออกไปข้างนอกกันดีไหมครับ?”  เสียงทุ้มกระซิบชิดใบหู พร้อมกับประคองพาร่างที่ถูกมอมเมาเดินออกไปจากที่อโคจรแห่งนี้ แขนยาวตวัดกอดเอวบางพร้อมกับดึงรั้งให้คนตัวเล็กเข้ามาแนบชิดไม่วายจะส่งมือไปลูบไล้แถวๆหน้าท้องขาวเนียนทันทีที่มีโอกาส แม้แต่ละก้าวเดินมันจะค่อนข้างทุลักทุเลเพราะคนตัวเล็กไม่มีเรี่ยวแรงที่จะเดินไป แต่คิมจงอินก็ไม่ได้รีบร้อนหรือหงุดหงิดอะไรอย่างที่ควรจะเป็น 


“ผลั่ก!  กว่าจะพากันออกมาถึงลานจออดรถได้ก็ใช้เวลาอยู่พอสมควร แต่เมื่อมาถึงเพียงแค่ปล่อยมือออกร่างของจุนมยอนก็ล้มลงไปแต่โชคดีที่ว่าล้มลงไปบนกระโปรงหน้ารถคันหรู จึงทำให้ไม่เจ็บเท่าไหร่นักแต่ยังไม่ทันที่จะได้ประคองตัวเองขึ้นทรงตัวยืนอีกครั้งก็ถูกคนที่พาออกไปจับพลิกกายจนแผ่นหลังแนบสนิทไปกับฝากระโปรงหน้ารถ


“ฉัน..ร้อน...”  เสียงครางแผ่วหลุดออกมาจากริมฝีปากที่แดงช้ำทำให้คิมจงอินต้องโน้มลงไปย้ำจูบซ้ำๆด้วยความหื่นกระหายก่อนจะเอื้อมมือไปปลดกางเกงสกินนี่ช้าๆดึงรั้งมันให้หลุดจากสะโพกอวบอิ่มเพียงเล็กน้อยก่อนจะสอดมือผ่านชั้นในเข้าไปสัมผัสกับเนื้อแท้ที่ซ่อนอยู่ภายในนั้น


“ฮะ..”  แววตาคมดุจเหยี่ยวที่กำลังจ้องจะตะครุบเหยื่อที่อยู่เบื้องล่างกำลังจ้องมองกระต่ายตัวขาวที่ผวาเข้ามาดึงรั้งเสื้อของเขาเอาไว้จนมันยับย่น และยิ่งยามที่เรียวนิ้วทั้งห้าของจงอินของลูบไล้และปลุกปั้นจนส่วนกลางกายมันกำลังดันสู้มือขึ้นมาอย่างช้าๆเสียงลมหายใจที่หอบถี่ของจุนมยอนก็ยิ่งทำให้เขาได้แต่ท่องบอกตัวเองเอาไว้ว่าให้ใจเย็นๆ 


“อย่ายั่วผมแบบนั้นสิครับ..”  รอยยิ้มร้ายวาดอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติ ก่อนที่มืออีกข้างจะไต่ลงไปบีบเค้นเนินเนื้อเบื้องหลัง นิ้วกลางที่สอดผ่านเข้าไปทำให้คนที่ไม่คุ้นชินกับมันพยายามต่อต้านแต่ก็ต้องแพ้อย่างราบคาบเมื่ออุ้งมือใหญ่ที่กุมอยู่ด้านหน้ากำลังรูดเร้าถี่รัวขึ้น


จุนมยอนหลุดเสียงครางออกมายามที่ใบหน้าหล่อเลื่อนต่ำลงมา และลิ้นร้อนกำลังสัมผัสตัวตนของเขา ลมหายใจถี่รัวมากยิ่งขึ้นยามที่ปลายลิ้นตวัดอยู่กับส่วนปลาย ความทรมานที่ยังไม่ได้รับการปลดปล่อยทำให้จุนมยอนบิดหน้าขาไปมา พยายามจะขยับหนีแต่ก็ถูกมือใหญ่ตรึงเอาไว้ให้แยกออกจากกัน ริมฝีปากที่ดูดกลืนและรับส่วนนั้นเข้าไปมันทำให้จุนมยอนเอนตัวลงราบไปกับฝากระโปรงรถ ยามที่ฟันซี่คมครูดกับส่วนนั้นและริมฝีปากที่รูดเร้าเร่งจังหวะ จุนมยอนก็ทำได้แค่ส่งมือไปกดศีรษะนั้นให้เข้ามาสัมผัสกับตัวตนของตนแนบชิดยิ่งขึ้น


“ฮะ..อึก..”  เสียงเครื่องยนต์ที่กำลังขับเคลื่อนผ่านมาทางนี้ทำให้จุนมยอนถีบขาตัวเองผลักคนที่กำลังเล่นสนุกกับร่างกายของตนให้ถอยห่างออกไป พยายามตะเกียกตะกายที่จะหนีไปแต่ก็ถูกดึงรั้งให้กลับมาอีกครั้ง เรือนร่างบอบบางถูกผลักไปจนชนกับประตูรถคันเดิมที่เจ้าของมันไม่คิดจะใส่ใจที่จะขับกลับไปไหน 


“ปล่อย..ฉัน..ไป...”  บานประตูรถถูกกระชากเปิดออกแต่จุนมยอนก็พยายามประคองสติเอาไว้ไม่ยอมก้าวขึ้นไปอย่างที่อีกคนอยากให้เป็น จงอินจึงวาดแขนโอบกอดร่างบางจากทางด้านหลัง ปลายจมูกก็ไล่สูดดมไปตามท้ายทอยและซอกคอขาวด้วยความหลงใหลในขณะที่ก็สอดข้อนิ้วยาวเข้าไปในช่องทางเบื้องหลัง กดย้ำเข้าไปจนมือเล็กๆต้องเอื้อมไปเกาะยึดกับหลังคารถเอาไว้แทน


“อย่าลืมสิครับ เราตกลงอะไรกันไว้?” นิ้วที่สองที่สอดแทรกเข้ามาพร้อมกับความลึกจนแข้งขาเริ่มจะสั่น แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจงอินจะยอมถอนนิ้วออกไปเลยแม้แต่นิด แรงกดย้ำจากข้อนิ้วยาวๆที่ส่งเข้าออกทำให้สะโพกอิ่มขยับรับอย่างไม่ตั้งใจ และใบหน้าหล่อที่ถอนออกจากซอกคอทำให้จุนมยอนหายใจได้โล่งเปราะหนึ่ง แต่ทันทีที่คนตัวสูงคุกเข่าลงไปแล้วกระชากกางเกงสกินนี่พร้อมกับชั้นในจนมันหลุดไปกองอยู่ที่หัวเข่าพร้อมกับใบหน้าที่ซุกลงมากับบั้นท้ายทำให้จุนมยอนตกใจจนทำอะไรแทบไม่ถูก


“อ..อย่า..”  มือเล็กพยายามเอื้อมมาปัดป้อง แต่จงอินก็ปัดออกก่อนจะแทรกลิ้นร้อนไล่ไปตามรอยแยกนั้น มือหนาบีบจนผิวเนื้อขาวๆขึ้นรอยแดง พร้อมกับแยกเรียวขาขาวออกจากกันตวัดปลายลิ้นรัวจนจุนมยอนเผลอร่อนสะโพกรับ ทั้งที่กระดากอายจนเกินทน แต่ร่างกายกับทรยศจนต้องงับลงบนท่อนแขนของตัวเองที่วางพาดอยู่กับหลังคารถเพื่อเก็บเสียงน่าอายที่จะหลุดรอดออกมา


“ฮะ..”  เรือนร่างบอบบางเซไปข้างหน้าเมื่อความใหญ่โตและคับแน่นกำลังสอดแทรกเข้ามาแทนเรียวนิ้ว จงอินเอื้อมมือไปจับบริเวณต้นขาขาวๆข้างหนึ่งก่อนจะจับยกขยับให้วางพาดขึ้นไปกับเบาะบนรถ แล้วดันสะโพกกดส่วนนั้นให้เข้าไปลึกมากอย่างขึ้น


“ถ้าเกร็งจะเจ็บนะที่รัก..”  เสียงแหบพร่ากระซิบข้างหูตามมาด้วยมือหนาที่เอื้อมมากุมข้างแก้มบังคับให้จุนมยอนหันมารับจูบอย่างเอาแต่ใจ มืออีกข้างลูบไปบนเชิ้ตตัวบางที่ยังติดกายอยู่แกล้งสะกิดเขี่ยตรงยอดอกผ่านเนื้อผ้าบางเบา อาศัยจังหวะที่คนตัวเล็กกำลังมัวเมาและเผลอไผลไปกับสัมผัสเหล่านั้น กดสะโพกกระแทกเข้าไปจนร่างบอบบางสั่นคลอนไปตามแรงอารมณ์


“ฮะ..อึก..” แท่งเนื้อร้อนที่ส่งผ่านเข้ามา ค่อยๆดันตัวเข้าออกช้าๆ ก่อนจะถี่รัวขึ้นเรื่อยๆ เรียวขาข้างที่พาดอยู่กับเบาะรถก็ไม่สามารถขยับลงได้เมื่อจงอินใช้แขนข้างหนึ่งจับล็อกเอาไว้ ริมฝีปากแดงๆถูกบดขยี้อีกครั้งพร้อมกับเรียวลิ้นเล็กๆที่ถูกดูดดึงจนเกิดเสียงสะท้อนก้องอยู่ภายในหูของคนทั้งสอง ร่างกายที่ผสานกันก็ยังขยับรับส่งกันอย่างต่อเนื่องจนรถคันหรูที่ถูกใช้มันเป็นหลักยึดสั่นคลอนไปตามแรง


“เรียกชื่อผมสิ..”  มือหนาปัดป่ายลงไปกอบกุมส่วนที่ยังรอการปลดปล่อยของคนตัวเล็ก ใช้เรียวนิ้วกอบกุมและช่วยรูดเร้าให้ในขณะที่ก็ยังไม่ได้ผ่อนแรงที่กระแทกเข้าไปในเรือนร่างอันหอมหวานนี้เลยแม้แต่นิด 


“จงอิน..ฉ..ฉัน..”  เสียงครางกระเส่ากำลังทำให้คิมจงอินกดผละออกอย่างรวดเร็ว เอื้อมมือไปจัดแจงปรับเบาะหนังนุ่มๆให้ขยับออกก่อนจะก้าวขึ้นไปนั่งแล้วรั้งเอาอีกคนขึ้นมาซ้อนอยู่บนตัว เรียวขาขาวๆทีคร่อมอยู่บนตักยิ่งมองเขาก็ยิ่งต้องลอบกลืนน้ำลายลงคอไปหลายอึก พอส่งมือไปดึงรั้งกางเกงที่มันอยู่ที่หัวเข่าให้หลุดออกไปจากเรียวขาขาวก็ได้รับความร่วมมือจากเจ้าของของมันอย่างดี 


“......”   ไม่มีคำพูดใดจากคนทั้งสอง จุนมยอนยกตัวขึ้นก่อนจะค่อยๆกดตัวลงรับตัวตนของจงอินไปอย่างช้าๆ ยอมรับว่าตอนที่ได้อยู่ในร่างกายที่อุ่นร้อนราวกับจะเผาผลาญทุกอย่างตรงหน้าให้มลายหายไปว่าสุขแล้ว แต่การที่ได้มามองสีหน้าของอีกฝ่ายตรงๆและชัดเจน มันสุขสมยิ่งกว่า


“จุนมยอน..ขยับสิ”  มือเล็กไต่จากแผ่นอกหนาค่อยๆโอบและคล้องแขนไว้กับลำคอของคนออกคำสั่ง ดวงตาฉ่ำปรือก้มลงมองสบตาจงอิน ก่อนจะขยับไปยามที่ส่วนปลายมันกดเข้าไปลึกและถูกจุดกระสันใบหน้าหวานๆก็จะเหยเกเล็กน้อยพร้อมกับฟันซี่เล็กที่ขบกัดริมฝีปาก มองดูแล้วก็ทำเอาใจแกว่งจนคิมจงอินคนนี้ไม่สามารถทนนั่งนิ่งๆอย่างเดียวได้อีกต่อไป


มือหนาเอื้อมไปปลดกระดุมเชิ้ตตัวบางบนเรือนร่างสวยงามให้หลุดออกแต่ก็ไม่ได้ดึงรั้งให้มันหลุดออกจากเรือนร่างขาวกระจ่างไป ทำเพียงแค่แหวกสาบเสื้อออกแล้ววาดเรียวลิ้นไปกับยอดอกทั้งสองข้าง แขนยาวๆเอื้อมไปโอบกอดพร้อมกับกดแผ่นหลังให้คนบนตัวแนบชิดยิ่งขึ้น ในขณะที่สะโพกก็ส่งรับและไสกายเข้าไปในร่างของอีกคนอย่างไม่ยอมแพ้


  เสียงลมหายใจหอบถี่และเสียงครางงึมงำด้วยความพึงพอใจดังก้องไปทั่วรถ ยอมรับว่าเขาถูกใจจุนมยอนตั้งแต่มองครั้งแรก และยิ่งได้เข้ามาสัมผัสและแนบชิดแบบนี้ก็ยิ่งหลงใหลและถูกใจมากยิ่งขึ้นไปอีก เห็นทีว่าคงจะให้ปล่อยผ่านไปและจบทุกอย่างไว้เพียงแค่คืนนี้ไม่ได้แล้วล่ะ..



ทั้งที่ได้มาครอบครองแล้ว..ก็ยิ่งอยากได้มากขึ้นไปอีก 






ความรู้สึกที่มาเติมเต็มมันทำให้จุนมยอนไม่มีสติพอที่จะมานั่งแยกแยะว่าสิ่งที่กำลังทำและเป็นอยู่ตอนนี้มันควรทำกับคนรักเพียงเท่านั้น ร่างกายที่ถูกคิมจงอินสัมผัสแทบทุกส่วนมันกำลังคุ้นชินและรู้สึกดีจนช่วยเยียวยาความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่ถูกคนรักหมางเมินได้มากพอดู


“เบาสิ..”  หลังจากที่ถูกพามาเข้ามาในห้องซึ่งจุนมยอนก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะถามออกไปว่าที่นี่คือที่ไหน แต่รู้ว่าทันทีที่ก้าวเข้ามาก็ถูกโถมกายเข้าหาจนแทบล้มไปกองกับพื้น 


“อะไรนะ..ผมได้ยินไม่ค่อยถนัด”  รอยยิ้มร้ายที่วาดขึ้นทำให้จุนมยอนกำลังรู้สึกถึงภัยที่กำลังคืบคลานเข้ามา พยายามประคับประคองสติที่มีอยู่น้อยนิดพาตัวเองให้วิ่งหนี แต่ก็ถูกคนที่แรงมากกว่ารั้งกอดแล้วกระชากเสื้อผ้าทุกชิ้นที่มีอยู่ติดกายออก พร้อมกับถูกออกคำสั่งให้เขาเป็นฝ่ายปลดเปลื้องเสื้อผ้าคืนให้ด้วย


“เดี๋ยวสิ!   เสียงหวานร้องปรามออกมาเมื่อยังไม่ทันที่จะเอื้อมมือไปปลดกระดุมเชิ้ตของจงอิน อีกฝ่ายก็ซุกใบหน้าลงมาหาเศษหาเลยอยู่ข้างซอกคอแล้วลูบมือวนกับบั้นท้ายกลมกลึงก่อนจะฟาดลงไปจนมันขึ้นรอยแดง


“อ๊ะ..มันไม่ถนัด..นี่คิมจงอิน!” มือหนาปลดตะขอกางเกงของตนเอง พร้อมกับเตะออกจากขาไปด้วยความรำคาญ ก่อนจะเอื้อมมือไปกุมมือนุ่มๆให้มาสัมผัสกับส่วนกลางกายของตนเอง ไม่น่าเชื่อว่าแค่อุ้งมือเล็กๆที่มาสัมผัสก็ทำให้ท้องไส้เขาปั่นป่วนไปหมด ร่างกายคิมจุนมยอนเป็นเหมือนกับเหล้าดีกรีแรงๆยามที่ส่งผ่านลำคอไปก็ทำเอารู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งท้อง


“แบบไหนจะถนัดล่ะครับ..หืม?”  ช่วงขายาวพาเอาคนตัวลงมาล้มลงนั่งด้วยกันที่โซฟากลางห้องโถง ก่อนจะสะบัดเสื้อเชิ้ตบนร่างกายตนเองออกไป ลอบมองเรือนร่างขาวผ่องที่ต้องไฟและมีรอยแดงเป็นจ้ำๆที่เขาทำเอาไว้ก่อนหน้านี้ ถ้าให้หาคำจำกัดความกับภาพตรงหน้าที่เห็นตอนนี้ก็คงจะเป็นคำว่า..สวย ไม่กี่ครั้งหรอกที่เขาจะใช้คำนี้กับผู้ชาย และบังเอิญจุนมยอนก็เป็นคนที่เขากล้าพูดออกมาได้เต็มปากว่าสวยจริงๆ



“อืม...”  มือหนาลูบไล้วนตรงต้นขาขาวๆก่อนจะรั้งเอาคนตัวนิ่มให้มานั่งคร่อมอยู่บนตัก มืออีกข้างก็ยังกุมมือเล็กให้สัมผัสร่างกายตนเองที่มันกำลังดันตัวขึ้นมาอย่างช้าๆ ยิ่งมือนุ่มๆถูไถสัมผัสไปมา จงอินก็ยิ่งรู้สึกดีจนต้องหลับตาลงแล้วผ่อนลมหายใจเข้าออกช้าๆ   


“ตรงนั้น..”  เสียงหวานที่ครางผ่าวทำให้จงอินเปิดเปลือกตาขึ้นมองอีกครั้ง เม็ดเหงื่อที่เกาะพราวอยู่ตามไรผม อีกทั้งสีหน้าที่แสดงความอึดอัดและทรมานทำให้เขาต้องรั้งท้ายทอยเข้ามาก่อนจะไล่งับกลีบปากที่แดงช้ำของคนตัวขาวอีกครั้ง ลิ้นเล็กแลบออกมาแตะที่กลีบปากอย่างอ้อยอิ่งราวกับกำลังรอคอยสัมผัสจากเขา และในเมื่ออีกฝ่ายเปิดทางให้กันคิมจงอินคนนี้ก็พร้อมสนองให้


“.....”  ลิ้นที่โรมรันพันเกี่ยวกันพร้อมกับมือของคนทั้งคู่ที่เกี่ยวสลับกันอยู่กับแท่งเนื้อร้อนของตน จุนมยอนสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมือใหญ่ๆรวบส่วนกลางกายทั้งของตนเองและของเขาเข้าไปไว้ในมือ พร้อมกับขยับรูดเร้ามันไปพร้อมๆกัน ผิวเนื้อที่เสียดสีกับอุ้งมือใหญ่และยังเสียดสีอยู่กับสิ่งเดียวกันทำให้จุนมยอนซบหน้าลงไปกับซอกคอของจงอินอย่างหมดเรี่ยวแรง


“อ๊ะ..จง..อิน..”  เจ้าของชื่อยกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจที่เห็นคุณหนูตัวขาวผู้หยิ่งยโสโอหังกำลังสิโรราบให้กับตนเอง ยิ่งขยับมือเร็วขึ้นเรือนร่างบอบบางก็จะขยับเข้ามาเบียดเสียดสียิ่งขึ้น ฝ่ามือเล็กๆของจุนมยอนแตะกุมทับกับหลังมือใหญ่ของจงอินช่วยกันประคับประคองปลุกปั้นให้ได้ปลดปล่อยห้วงอารมณ์นั้นไปพร้อมๆกัน


“ฮะ..อึก..”   ลำคอขาวที่ล่อตาล่อใจถูกจงอินโน้มลงไปงับและดูดดึงจนขึ้นรอยสีกุหลาบอยู่ประปราย เสียงครางชื่อของตนเองที่หลุดออกมาจากริมฝีปากแดงช้ำคู่นั้นทำให้จงอินเร่งจังหวะที่อุ้งมือทั้งให้เร็วยิ่งขึ้น จนกระทั่งหยาดน้ำขุ่นขาวซึมออกมาจากส่วนปลาย จึงโน้มตัวไปกระซิบข้างใบหูขาวว่าให้ทำต่อเองได้ใช่ไหม สิ่งก็ได้คำตอบรับเป็นการพยักหน้าจนเรือนผมสีน้ำตาลเข้มพริ้วไหวไปตามมองดูน่ารักน่าชัง น่ารังแกและขย้ำให้จมกรงเล็บเสียเหลือเกิน


“.....”   เมื่ออุ้งมือเล็กๆที่สานต่อกิจกรรมส่งให้คนทั้งคู่ปลดปล่อยออกมาแล้ว จุนมยอนก็ละมือออกแล้ววางลงไปแนบกับแผ่นอกหนาราวกับหาที่พึ่งพิง แต่กลับถูกฉกฉวยมือไปกุมไว้ ริมฝีปากได้รูปไล่งับเรียวนิ้วทั้งห้าที่เปรอะเปื้อนน้ำขุ่นคาว ก่อนจะแลบลิ้นออกมาเลียทำความสะอาดให้เล่นทำเอาคนบนตักเบิกตากว้าง พยายามจะรั้งมือกลับ


“อยู่เฉยๆสิ”  เสียงทุ้มที่ติดดุแต่ไม่จริงจังนักทำให้จุนมยอนทำได้แค่มองการกระทำของคิมจงอินด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก กับลู่หานผู้ชายคนนั้นไม่เคยสนใจหรือใส่ใจเขาขนาดนี้เลยด้วยซ้ำ แล้วกับคนคนนี้...


“ทำไมคุณมันถึงได้น่ากินไปทั้งตัวแบบนี้นะ”  ทั้งที่พูดออกไปริมฝีปากก็ไล่งับไปตามท่อนแขนเล็ก กดจูบย้ำๆสร้างรอยรักเอาไว้ทุกบริเวณที่ริมฝีปากลากผ่านไป จวบจนกระทั่งหยุดอยู่ที่ยอดอกที่ตั้งชัน เรียวลิ้นร้อนไล่ไปตามรอบฐานยอดอกก่อนจะตวัดลิ้นหยอกล้อเล่นกับส่วนปลาย แกล้งเล่นอยู่แบบนั้นจนจุนมยอนต้องแอ่นอกรับและใช้ท่อนแขนเล็กไขว่คว้าโอบกอดรอบลำคอเอาไว้



“ถ้าคุณเป็นแฟนผม..ผมไม่มีทางทำแบบไอ้บ้านั่นแน่ๆ”  เรียวแขนเล็กที่โอบรัดแน่นขึ้นทำให้จงอินเลือกที่จะไม่พูดเรื่องที่ชวนให้เสียบรรยากาศแบบนั้น ก่อนจะค่อยๆขยับดันส่วนที่กำลังแสดงความต้องการอย่างชัดเจนให้หายเข้าไปในช่องทางเบื้องหลังที่เสียดสีอยู่กับหน้าขาของเขา


“แต่นายไม่ใช่ไง..”  ถ้อยคำต่อล้อต่อเถียงยังมีให้ได้ยินไม่ขาดปาก แม้กระทั่งในตอนที่จงอินกดส่วนปลายฝังเข้าไปในร่าง เสียงด่าทอหรือดูถูกแปรเปลี่ยนเป็นเสียงครางในที่สุดเมื่อสองร่างที่กอดก่ายกันอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ ขยับกายส่งรับกันอย่างรู้หน้าที่ เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังก้องไปทั่วทั้งห้องและเสียงโซฟาที่สั่นคลอนก็ไม่ได้ช่วยหยุดให้คนสองคนที่กำลังดำดิ่งไปสู่ห้วงอารมณ์หยุดมันลงเลยแม้แต่นิด


เสียงบดจูบ ขบกัด และกระแทกกายเข้าออกย้ำๆ ซ้ำๆ หนักหน่วงสลับเบา ยังคงดำเนินต่อไป โดยที่คนทั้งคู่หลงลืมและโยนทุกสิ่งทุกอย่างเอาเบื้องหลัง แม้กระทั่งความเป็นจริงที่ว่า ตัวจริงของเขาทั้งคู่อาจจะรอพวกเขาอยู่ที่บ้านก็ตามที แต่จะให้ทำยังไงได้เรือนร่างของคิมจุนมยอนมันดึงดูดเขาจนไม่สามารถถอนตัวออกมาได้จริงๆ ต้องขอโทษและขอบคุณไอ้หน้าโง่ที่ชื่อลู่หานอะไรนั่นจริงๆที่ละเลยแฟนตัวเองจนตกมาถึงมือเขาในที่สุด..



ช่วยไม่ได้จริงๆว่ะ...



กลับไปเม้นที่หน้าเด็กดีนะคะ ^^ >> Dek-d<< 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น