อาจจะเพราะฮีตเตอร์ในห้องมันอุ่นไป หรือเพราะอะไรก็สุดจะรู้แต่ในตอนที่เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่เริ่มหลุดลุ่ยออกจากเรือนกายไปทีละน้อยนั้นไม่ได้ทำให้คนสองคนที่กำลังแลกจูบกันอยู่หรือสึกหนาวขึ้นมาเลยสักนิด
จุนมยอนยอมขยับลุกขึ้นนั่งตามที่อีกคนคอยประคอง
มือที่กำอยู่กับคอเสื้อก็ซุกเข้าไปขยุมเส้นผมสีทองสว่างอย่างมันมือ
“ด..เดี๋ยว..พี่คริส”
ดวงตาฉ่ำปรอยก้มลงมองเสี้ยวหน้าของคนที่ซุกอยู่กับซอกคอของตนเอง
อยากจะห้ามแต่เรี่ยวแรงกลับไม่มี
เสื้อเชิ้ตสีขาวที่สวมติดกายก็ถูกดึงรั้งให้หลุดออกจากหัวไหล่ทีละนิด
พร้อมกับความอุ่นชื้นที่ไล่ไปตามผิวเนื้อบริเวณนั้น
ความร้อนรุ่มและอึดอัดกำลังเข้าโจมตีจุนมยอนไปทั้งร่างกายและจิตใจ
“เดี๋ยวก่อน..”
จุนมยอนพยายามขยับแต่มันเหมือนกับว่ากำลังถดกายไปมาอยู่บนตักของอีกฝ่ายมากกว่า
พอเอนตัวหนีคริสก็ใช้อ้อมแขนรวบกอดให้เข้าไปแนบชิดมากกว่าเดิม
พอบอกให้หยุดแล้วอีกฝ่ายไม่คิดจะสนใจ จุนมยอนเลยจำต้องเลื่อนมือที่ทึ้งอยู่กับผมของคนตรงหน้ามาประคองที่ข้างแก้มแทนแต่ก็ไม่วายถูกคนที่กำลังหน้ามืดตามัวขโมยจูบอีกครั้ง
“พี่คริส”
คราวนี้ได้ผลเมื่อจุนมยอนอ้อนเสียงหวานแล้วลูบมือที่แสนจะซุกซนเข้าไปในเสื้อของอีกฝ่ายเช่นกัน
คริสผละออกมาจ้องตาหวานซึ้งกับตัวเล็กที่ปรือตามองอย่างน่าเอ็นดู
รู้สึกภูมิใจอย่างบอกไม่ถูกที่จัดการตัวเล็กที่ปากคอเราะร้ายให้มาร้องครางเป็นลูกแมวแง๊วๆอยู่ข้างหูได้แบบนี้
“ครับ”
คริสตอบรับคำเรียกขานของน้องก่อนจะลากมือสอดผ่านเข้าไปภายในกางเกงสีเข้มที่ปกปิดผิวเนื้อเนียนนุ่มอยู่
พอรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นจุนมยอนก็พยายามจะขยับหนีลงจากตัก
แต่ไม่ได้รู้เลยว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่มันกำลังสร้างความลำบากใจและทรมานร่างกายของพี่คริสคนนี้มากขนาดไหน
“จุนมยอน..ทำแบบนี้พี่แย่นะ”
คริสกระซิบออกมาเสียงแหบพร่า ก็ยามที่บั้นท้ายและเรียวขาเล็กมันขยับไปมาบนตักเขา
ความรู้สึกไวต่อสัมผัสและยิ่งกับคนที่ชอบด้วยแล้วก็ทำเอาร่างกายมันแสดงปฏิกิริยาตอบแสดงออกมาได้อย่างรวดเร็ว
คริสพยายามสูดหายใจเข้าลึกๆแต่มือที่ยังคงสอดเข้าไปใต้เนื้อผ้าก็ขยำและบีบบั้นท้ายนิ่มอย่างมันมือ
“อะ..ด..เดี๋ยว..คือผม..”
แก้วตาใสที่ช้อนมองอีกทั้งมือเล็กๆที่ขยำอยู่กับอกเสื้อราวกับกระต่ายที่กำลังวอนขอชีวิตจากราชสีห์
แต่ดูท่าว่าวินาทีนี้ราชสีห์ผู้หิวโหยคงจะขย้ำเนื้อนุ่มๆของกระต่ายตัวขาวให้ได้ตายกันไปข้างหนึ่งล่ะ
เข้ามาอยู่ในกรงเล็บเขาแล้วคงไม่ปล่อยออกไปง่ายๆหรอกนะ
“กำลังจะบอกรักพี่หรอ?”
จุนมยอนก้มลงไปงับปลายคางของคนที่พูดจาไม่เข้าหูแม้จะในเวลาเช่นนี้ก็ตาม
แต่ก็ต้องสะดุ้งและเกร็งไปทั้งตัวเมื่อเรียวนิ้วยาวจากมือที่บีบขยำบั้นท้ายกำลังสอดแทรกเข้ามา
คริสอาศัยจังหวะที่จุนมยอนมัวแต่นิ่งจนทำอะไรไม่ถูกก้มลงงับจุดเล็กๆบนแผ่นอกขาวที่ล่อตาล่อใจอยู่
ใช้ริมฝีปากดูดดึงจนมันเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบน่าอาย
“ผ..ผม..ไม่เคย”
คำพูดน่ารักน่าชังพร้อมกับลมหายใจที่หอบถี่ทำให้คริสนึกเอ็นดูจนต้องมอบรางวัลเป็นจูบหวานๆเป็นการปลอบใจ
พร้อมกับรั้งเสื้อที่หมิ่นเหม่อยู่ที่หัวไหล่เล็กให้มากองที่ข้อแขน แล้วใช้ริมฝีปากพรมจูบไปทั่วทั้งเรือนกายขาวกระจ่างไล่จูบลงมาจนถึงหน้าท้องขาวๆก่อนจะแกล้งใช้ฟันซี่คบงับเบาๆลงตรงส่วนที่กำลังดันนูนขึ้นมาจากกางเกงของคนตัวเล็ก
“พี่ก็ไม่เคยครับ..กับจุนมยอนคนแรกที่พี่อยากทำเลย โอ้ย!! หยิกพี่ทำไมล่ะ?”
จุนมยอนหยิกลงตรงกลางท้องของอีกคนที่พูดจาได้น่าหงุดหงิดที่สุด
ตั้งใจจะบิดให้เนื้อหลุดไปเลยแต่ก็ทำไม่ได้เมื่อกางเกงของตัวเองกำลังถูกปลดตะขอออกไป
มืออุ่นๆของพี่คริสที่วางอยู่กับบั้นท้ายก็ยังคงลูบ
สลับกับบีบขยำและส่งก้านนิ้วยาวๆเข้ามาในช่องทางด้านหลังไปพร้อมๆกับที่โพรงปากอุ่นร้อนกำลังกลืนกินส่วนด้านหน้าที่ต้องการการปลดปล่อย
จุนมยอนกัดปากแน่นกลั้นเสียงน่าอับอายเอาไว้
ความรู้สึกแปลกใหม่ที่เกิดขึ้นพร้อมกับความเสียวซ่านที่ตีรวนขึ้นมาจนทำอะไรไม่ถูก
ทำได้แค่นั่งงอตัวกอดศีรษะคนที่ซุกใบหน้าลงกับหว่างขาของตัวเองอยู่แบบนั้น
สะโพกอิ่มยกขึ้นน้อยๆยามที่นิ้วที่สองและสามกำลังแทรกเข้ามาในช่องทางด้านหลัง
“พี่คริส...”
“ครับ..คนเก่ง?”
คริสผละออกจากส่วนนั้นที่ก่อนจะเอื้อมมือไปปลดตะขอกางเกงของตนเอง
โดยได้รับความร่วมมือจากคนบนตักช่วยด้วยอีกแรง
ก้านนิ้วยาวที่ดันเข้าออกอยู่ค่อยๆถอนออกมาพร้อมกับมือหนาที่เลื่อนมาประคองสะโพกคนตัวเล็กให้กดรับกับความต้องการของตัวเอง
“จ..เจ็บ”
น้ำตาที่รื้นในดวงตาคู่สวยกำลังทำให้คริสใจเสีย
มือหนาประคองแก้มนิ่มแล้วบดจูบลงไปอีกครั้งพร้อมกับค่อยๆไสกายเข้าหาร่างขาวที่ร้อนรุ่มไม่ต่างกัน
คนทั้งสองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพากันสลัดเสื้อผ้าที่ให้ไออุ่นออกจากร่างไปตอนไหน
รู้แต่ว่าวินาทีนี้ร่างเปลือยเปล่าสองร่างแนบชิดกันทุกส่วนกำลังขยับสอดรับจังหวะกันอยู่ใกล้ๆกับต้นคริสมาสต์ที่ถูกตกแต่งยังไม่เสร็จดี
“พ..พี่คริส เบาๆหน่อย”
จุนมยอนไม่รู้ว่าพี่คริสไปอดยากมาจากไหนถึงได้หน้ามืดตามัวขนาดที่ทำเขาร้าวไปทั้งตัวได้แบบนี้
เรียวขาเล็กๆที่วางพาดไปกับเอวสอบของคนเป็นพี่ก็เหมือนจะเป็นตะคริวซะให้ได้
จุนมยอนจึงทำได้แค่ใช้มือดันอกคนที่ทั้งกัดทั้งงับอยู่กับคอของตนเองให้ออกห่างไป
“หืม?”
เสียงครางงึมงำไม่ได้ศัพท์เหมือนไม่คิดจะใส่ใจ
ทำให้คนที่นั่งซ้อนอยู่บนตักและต้องขยับไปตามแรงอารมณ์ของคนเป็นพี่ครางหวิวออกมา
“พี่คริส..ฮึก..เบา..เบา”
จุนมยอนไม่รู้ว่าเจ้าของชื่อเข้าใจคำว่าเบามากน้อยแค่ไหน
แต่การที่ส่งมือมาบีบเค้นบั้นท้ายเขาในขณะที่ตัวเองก็ยังคงส่งกายเข้าหาไม่หยุดหย่อน
มันทำเอาเขาแทบขาดใจตาย
พยายามเอียงหลบก็แล้วแต่ก็ไม่พ้นริมฝีปากที่พยายามไล่งับไล่จูบไปได้เลย
พอหันหน้าหนีแก้มก็ถูกขโมยหอม พอดันตัวขึ้นฟันซี่คมก็ไล่งับกับอก
พอเอามือไปประคองใบหน้าหล่อๆเอาไว้ก็ถูกป้อนจูบและเรียวลิ้นที่ช่ำช่องดึงเรี่ยวแรงออกไปเสียหมด
“กอดพี่แน่นๆสิ”
จุนมยอนไม่รู้ว่าวิธีมันช่วยคลายความเจ็บปวดให้น้อยลงได้มากน้อยแค่ไหน
แต่เขาก็เลือกที่จะทำ เรียวแขนเล็กไขว่คว้าโอบรอบคอของผู้เป็นพี่เอาไว้แน่น
แก้มนุ่มๆก็แนบชิดสนิทกับแก้มของคนตัวโตกว่า
หยาดเหยื่อที่ซึมออกมาจากเรือนกายนี้ไม่ได้ทำให้คนสองคนนึกรังเกียจเลยแม้แต่นิด
กลับกันคริสกลับยิ่งรู้สึกชอบและพึงพอใจ
แขนยาวๆก็โอบกอดกระชับกระต่ายเนื้อแน่นเอาไว้ แล้วถูไถแก้มไปกับแก้มบางของอีกฝ่าย
พยายามผ่อนคลายและเบาแรงลงแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังทำได้ยากอยู่ดี
ไม่รู้ว่าคืนที่แสนยาวนานนี้จะผ่านไปเช่นไร แต่คริสรู้เพียงว่าวินาทีนี้
ยามที่ร่างกายของเราได้โอบกอดกันจนแนบสนิทก้าวผ่านความหนาวเหน็บไปด้วยกัน
มันเป็นสิ่งที่เขาจะไม่มีวันลืมเลยชั่วชีวิต
ครั้งแรกของเขาและจุนมยอน...
คืนคริสมาสต์อีฟผ่านพ้นไป ล่วงเข้าวันที่ยี่สิบห้าแล้วแต่หิมะก็ยังคงโปรยปรายลงมาราวกับไม่รู้จักหยุดพัก
จุนมยอนวาดนิ้วลงกับบานกระจกที่ขึ้นไอเป็นตัวคุณลุงซานต้าที่มีหนวดรุงรังและก็ต้องสะดุ้งเมื่อคนที่ยึดพื้นที่ตรงตักใช้ต่างเก้าอี้อยู่ๆก็ก้มลงมากัดไหล่เขาเสียอย่างนั้น
“โอ้ย!
เจ็บนะพี่คริส”
ใบหน้าบูดบึ้งของจุนมยอนยังคงทำให้คริสยิ้มออกมาได้ทุกทีที่มอง
คริสปลอบใจน้องด้วยการเป่าลงไปตรงรอยฟันที่ตัวเองงับแล้วจูบเบาๆ
พร้อมกับกระชับกอดแล้วฝังจมูกลงข้างแก้มที่พองลมด้วยความหมั่นเขี้ยว
“แย่งผ้าห่มผม นิสัยไม่ดี!”
คำตัดพ้อน่ารักน่าชังยิ่งทำให้คริสกระชับอ้อมกอด กอดคนตัวขาวไว้แน่นเข้าไปอีก
ร่างกายที่ยังเปลือยเปล่าของคนสองคนนั่งซุกตัวอยู่ภายใต้ผ้านวมผืนหนาแล้วมองหิมะในวันคริสมาสต์ที่ปกคลุมทั้งเมืองให้เป็นสีขาวอยางเพลิดเพลิน
พร้อมกับเสียงเจื้อยแจ้วของตัวเล็กที่นั่งอยู่บนตักกำลังบ่นว่าอยากจะวิ่งออกไปปั้นตุ๊กตาหิมะซะเหลือเกิน
“แค่พี่กอดก็อุ่นกว่าผ้าห่มตั้งเยอะ”
จุนมยอนหันกลับมามองคนที่ยิ้มจนน่าหมั่นไส้ ก่อนจะเอนตัวพิงลงกับอกกว้าง
แล้วช้อนสายตาขึ้นมอง
“มองแบบนี้อ้อนเอาอะไรครับที่รัก?”
จุนมยอนมุ่ยปากแล้วส่ายหัวพร้อมกับเอาหัวถูไถกับปลายคางราวกับสนุกนักหนาที่ได้เล่นแบบนี้
เรียวขาขาวที่โผล่พ้นผ้าห่มออกมาทำให้คริสต้องตวัดชายผ้าขึ้นปิดเอาไว้
พร้อมกับก้มลงไปกดปลายจมูกลงกับเส้นผมนุ่มๆของตัวเล็กขี้อ้อน
เสียงลมหายใจที่กระชั้นถี่ของคนเป็นพี่ทำให้จุนมยอนหันกลับมามองอีกครั้งแล้วหัวเราะคิกคักถูกใจ
แต่คริสไม่รู้สึกแบบนั้นเลยสักนิด ก็ก้นนิ่มๆที่เบียดยู่กับตักไหนจะผิวเนียนนุ่มที่เสียดสีไปมากับร่างกายเขา
แม้จะเอาผ้าห่มพันไว้แค่ไหนก็เถอะแต่คริสกลับรู้สึกร้อนขึ้นมา
“พี่คริส!!”
จุนมยอนชะงักมือที่ขีดเขียนอยู่กับบานกระจก
เพราะบางสิ่งบางอย่างที่คืบคลานอยู่ใต้ผ้าห่มทำให้ต้องร้องตะโกนออกมา
แต่คนที่ลากมือมาลูบเรียวขาพร้อมกับบีบเค้นเรียวขาด้านในก็ยังคงไม่ยอมหยุด
จุนมยอนหันไปมองค้อนใส่พร้อมกับระดมฟาดมือที่กำลังเฉียดมาที่กลางลำตัวด้วยความหงุดหงิด
“อึก!”
อุ้งมือใหญ่ๆขยับเข้ามากุมเอาไว้พร้อมกับค่อยๆปลุกปั้นจนจุนมยอนเริ่มดันตัวขึ้นมาอีกครั้ง
ไหนจะมือหนาที่ว่างอีกข้างก็ลูบไปตามชายโครงไล่มาจนถึงยอดอกแล้วบีบเค้นเสียจนร่างบางที่อยู่บนตักถึงกับนั่งไม่ติด
แอ่นอกรับอย่างน่าอาย
การโจมตีจากทุกทิศทางไม่ว่าจะเป็นมือที่ไล่สัมผัสไปทั่วทั้งเรือนร่างหรือริมฝีปากที่ไล่งับข้างหู
ซอกคอ แก้ม หรือริมฝีปาก หรือส่วนนั้นที่กำลังบดเบียดเข้ามากับบั้นท้ายกลมกลึง
รู้แต่ว่าในตอนนี้ผ้าห่มที่พันร่างของเราทั้งคู่อยู่มันกำลังจะสร้างความอบอุ่น
บางทีอาจจะร้อนถึงขั้นเสียเหงื่อกันอีกเป็นลิตร
“พี่บอกแล้วว่าพี่หล่อและใจดีกว่าไอ้ชานยอลเยอะ..ถ้าจุนมยอนไม่รักพี่แล้วจะเสียใจ”
“งั้นผมยอมเสียใจ!” คนตัวเล็กหัวเราะออกมาอย่างเป็นต่อที่พ่อคนที่มั่นใจในตัวเองสูงกำลังหน้าเสีย
แต่แล้วกลับต้องเป็นตัวเองที่หัวเราะแทบไม่ออกเมื่อเจอประโยคเด็ดของคนเป็นพี่
“ไม่ทันแล้วล่ะครับ ถึงยังไงจุนมยอนก็เสียตัวให้พี่แล้ว
กับแค่ใจถ้าไม่ยอมให้กันง่ายๆก็คงต้องเสียตัวอีกหลายที”
ช่วยกลับไปเม้นที่หน้าเด็กดีด้วยนะคะ >> Dek-d<<
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น