จุนมยอนร้องปรามออกมาแต่ก็ได้เพียงความเงียบและรอยยิ้มในแบบเดิมตอบกลับมา
ริมฝีปากที่แดงช้ำเผยอออกเพื่อกอบโกยลมหายใจเข้าปอด ทั้งที่อยากจะร้องออกมาก็ได้แต่กลั้นเสียงเอาไว้
และครางในลำคอด้วยความทรมาน ยามที่สัมผัสอุ่นชื้นหยอกเล่นกับยอดอกของเขา
“หอมจริงๆด้วยนะครับ..คุณจุนมยอนเนี่ย..”
คนถูกเอ่ยชื่อทำได้แค่เบนสายตาหนี
ปล่อยให้น้ำตามันซึมออกมาทางหางตาด้วยความอดสู ตะขอกางเกงถูกปลดออกจากกัน
พร้อมกับที่มือร้อนและสากล้วงเข้าไปด้านในสัมผัสกับส่วนกลางลำตัว
จนจุนมยอนต้องดึงรั้งคอเสื้อของเจ้าของมือนั้นเอาไว้
ฝ่ามือใหญ่ค่อยๆสัมผัสและบีบเค้นเบาๆ
สลับกับริมฝีปากที่วนเวียนกลับมาขโมยจูบครั้งแล้วครั้งเล่า
ลิ้นร้อนที่เกี่ยวรับกันทำให้ชานยอลกดยิ้มลึกที่ชักนำและทำเอาจุนมยอนหลงกลและมัวเมาไปกับรสจูบและการกระทำของเขาได้
ฝ่ามืออีกข้างสอดผ่านกางเกงทางด้านหลังแกล้งบีบเค้นก้นนิ่มๆ พร้อมกับมือด้านหน้าที่ยังคงปรนเปรอให้กับเจ้านายตัวเล็กและนั่นก็ทำเอาคนที่ถูกป้อนจูบครางไม่เป็นภาษา
“อ..อย่า…”
ยิ่งได้ฟังเสียงห้ามปราม
มือที่กอบกุมแท่งเนื้อร้อนอยู่ก็ยิ่งกดน้ำหนักลงมากขึ้น
ส่วนฝ่ามืออีกข้างที่บีบเค้นบั้นท้ายนิ่มก็ดึงรั้งกางเกงและชั้นในที่มันเกะกะให้มันหลุดออกจากสะโพกไป
ใบหน้าหวานผินไปทางด้านหลังยามที่ถูกคนที่สวมกอดเอาไว้ทำรอยอยู่กับซอกคอครั้งแล้วครั้งเล่า
ฝ่ามือเล็กขยุมเรือนผมสีน้ำตาลเข้มเอาไว้ พยายามขบกัดริมฝีปากตนเองกลั้นเสียงน่าอายไม่ให้ออกมา
“นอกจากหอมแล้ว
ผิวก็นุ่มด้วยนะครับ..”
ชานยอลพึมพำเบาๆพร้อมกับจูบที่หลังใบหูแล้วแกล้งขบเม้มใบหูนิ่มเอาไว้ด้วยความหมั่นเขี้ยว
ข้อนิ้วยาวๆสอดแทรกเข้าไปในช่องทางเบื้องหลังทำเอาน้ำตาเม็ดเล็กร่วงเผาะออกมาจากดวงตาคู่สวย
จุนมยอนทำเพียงแค่ผลักอีกคนออกไป
แต่แรงอันน้อยนิดก็ทำให้ชานยอลจูบที่หางตาปลอบขวัญคนตัวเล็กและเร่งจังหวะมือด้านหน้าเพื่อส่งคนตัวเล็กให้ไปถึงฝั่งฝัน
“อ..อย่า..ปล่อยฉัน..อ๊ะ!”
หลังจากที่สุดปลายทางของห้วงอารมณ์
แข้งขาทั้งสองข้างที่ทรงตัวยืนอยู่ก็อ่อนพับ จนชานยอลต้องช้อนกอดเอาไว้
นิ้วมือที่สอดอยู่ช่องทางเบื้องหลังก็ยังคงทำหน้าที่ของมัน
ริมฝีปากก็ยังคงพรมจูบเล่นสนุกกับเรือนร่างขาวผ่องอย่างไม่รู้จักเบื่อ
“คุณจุนมยอนเชื่อเรื่องความรักมั้ยครับ?”
“ป..ปล่อยฉัน....” คนถูกถามไม่ใส่ใจที่จะตอบคำถามใดๆทั้งสิ้น
ทำเพียงแค่อ้อนวอนขอร้องให้อีกคนยอมปล่อยตนเองไปเสียที
ชานยอลใช้มือข้างที่ว่างปลดเข็มขัดของตนเองออก ก่อนจะปลดตะขอแล้วรั้งซิปลง
แต่ก็ถูกฝ่ามือเล็กๆทั้งผลักทั้งทุบจนรู้สึกเจ็บขึ้นมาเล็กน้อย
“ปล่อยไม่ได้หรอก”
เสียงทุ้มกระซิบชิดใบหู
ทำให้จุนมยอนช้อนสายตาที่มีแต่คำถาม สบตากับเจ้าของคำพูด
และก็ไม่ได้คำตอบใดๆนอกจากจูบที่ช่วงชิมลมหายใจ
จูบที่ดึงเอาความเป็นตัวจุนมยอนที่เย่อหยิ่งไปจนหมดสิ้น
หลงเหลือไว้แต่เพียงลูกนกปีกหักตัวเล็กๆเท่านั้น
“จนกว่า...”
คำพูดที่ทำเอาคนฟังทั้งสับสน
และไม่เข้าใจถูกลืมไปเมื่อเรียวขาขาวถูกชานยอลรั้งขึ้นไปเกี่ยวกับเอวสอบของตนเอง
จุนมยอนพยายามที่จะห้ามปรามแต่ก็หมดหนทาง
เมื่อก้านนิ้วยาวถูกถอนออกไปจากช่องทางเบื้องหลังแล้วแทนที่ด้วยสิ่งอื่นแทน
“เจ็บ...ป.ปล่อย..”
เสียงสั่นเครือขอความเห็นใจไม่ได้ทำให้ชานยอลยอมหยุด
กลับกันยามที่แทรกกายเข้าไปในช่องทางเบื้องหลังที่ตอดรัดและกลืนกินเขาเอาไว้ ก็ยิ่งทำให้การควบคุมตัวเองทุกอย่างเท่ากับศูนย์
ฝ่ามือใหญ่ที่จับต้นขาขาวเอาไว้ลูบมันไปมาอย่างเพลินมือ
ก่อนที่จะค่อยไล้มาถึงเอวบาง
อ้อมแขนที่รัดแน่นตรงช่วงเอวมีมากขึ้นทำให้จุนมยอนรู้สึกอึดอัดแต่ก็ไม่สามารถดิ้นเพื่อที่จะให้ตัวเองหลุดพ้นได้
เพราะยิ่งดิ้นส่วนที่แทรกเข้ามาในกายของเขาก็จะยิ่งกดลึกเข้ามามากเท่านั้น
จุนมยอนถูกช้อนตัวขึ้น
แผ่นหลังบางที่ยังคงมีเชิ้ตตัวบางติดกายครูดไปกับผนังลิฟท์
ท่อนขาขาวทั้งสองข้างถูกจับให้ยกขึ้นเกี่ยวกับเอวสอบของคนที่แทรกกายเข้าหา
แม้จะทั้งเสียวและเจ็บแทบขาดใจ แต่ก็ทำได้แค่ครางรับในลำคอ เพราะริมฝีปากของทั้งคู่ที่ยังดูดดึงกันอยู่
แรงโถมกายของชานยอลที่มากขึ้น
ทำเอาคนตัวเล็กเกร็งต้นขาที่เกี่ยวอยู่ที่เอว ก่อนจะวาดแขนโอบรัดรอบคอคนตัวสูงกว่าเอาไว้แน่น
“อื้อ!!!”
ฝ่ามือเล็กขยุมทึ้งเส้นผมสีน้ำตาลเข้มเต็มแรง
เมื่อยามจังหวะที่ชานยอลส่งกายเข้าหามันถี่และกระชั้นมากขึ้น
จุนมยอนขบกัดริมฝีปากตนเองเอาไว้แน่นเพื่อกลั้นเสียงน่าอายที่ดังเล็ดรอดออกมา
เขาจะไม่มีวันสุขสมไปกับการกระทำที่เลวทรามของผู้ชายคนนี้เด็ดขาด
“ถ้ามีความสุขก็ร้องออกมาสิครับ
ร้องออกมาให้รู้ว่าคุณต้องการผม”
ใบหน้าหวานส่ายพรืด
พยายามกลั้นเสียงเอาไว้ แต่คนอย่างปาร์คชานยอลก็ไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น
ใบหน้าหล่อฝังลงกับแผ่นอกขาว ลากลิ้นสัมผัสกับยอดอก
จนคนที่ถูกช้อนอุ้มอยู่ดิ้นพล่าน แรงดึงทึ้งเส้นผมเป็นตัวบอกได้เป็นอย่างดี
ว่าอีกไม่นานจุนมยอนจะต้องกรีดร้องออกมาให้เขาได้ฟังเสียงหวานๆนี้ชัดเจนเต็มสองหูแน่ๆ
“บอกสิครับว่าคุณจุนมยอนต้องการ..ปาร์คชานยอล”
ลิ้นร้อนตวัดถี่รัวจนคนตัวเล็กต้องแอ่นกายรับ
ไหนจะช่องทางเบื้องหลังที่ถูกรุกราน มันทำเอาคิมจุนมยอนแทบบ้า เสียงดูดดึงยอดอกอย่างหยาบโลนดังลั่นกล่องสี่เหลี่ยมใบนี้
ไหนจะเสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังตามจังหวะการกระแทกของชานยอลที่ส่งเข้าหา
ยิ่งทำให้คนถูกกระทำปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่อาย
“พูดสิ จุนมยอน!”
น้ำเสียงแข็งกร้าวตวาดลั่นลิฟท์ทำให้คนที่แพ้อย่างย่อยยับ
ซบใบหน้าลงกับไหล่หนา ชานยอลพรมจูบอยู่ข้างซอกคอ
ก่อนจะเคลื่อนใบหน้ามาจูบข้างแก้มที่อาบไปด้วยน้ำตา
เทียวจูบเทียวหอมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งลุ่มหลงและมัวเมา อยากจะได้ อยากครอบครอง
อยากให้จุนมยอนเป็นของเขาแค่คนเดียว
“ฉันเกลียดนิยามรัก..เกลียดคำที่บอกว่ารักคือการเสียสละ”
สรรพนามที่ใช้เปลี่ยนไป
เมื่อจุนมยอนไม่ได้ต่อต้านเขาอย่างในตอนแรกแล้ว คนตัวเล็กเพียงแค่ซบใบหน้าลงข้างซอกคอ
แล้วครางรับยามที่กายของเขามันกระแทกเข้าไปจนถึงจุดกระสัน
“เกลียดที่บอกว่ารักมันไม่ใช่การครอบครอง”
แรงกระแทกถี่รัวมากยิ่งขึ้นทำเอาจุนมยอนกรีดร้องและครางไม่เป็นภาษา
อ้อมแขนเล็กหากแต่อบอุ่นในความรู้สึกของชานยอลก็ยังโอบอยู่ที่รอบคอเขา
แก้มขาวนวลก็ยังแนบอยู่กับแก้มของเขา..
“เกลียดทุกนิยามที่มันบอกให้ฉันต้องปล่อยมือจากคนที่รักไป”
หยดน้ำตาไหลซึมออกมาจากแววตาที่อ่อนแสงของคนพูด
ความรู้สึกที่มีอยู่ท่วมท้นค่อยๆถูกถ่ายทอดออกมาให้อีกคนได้รับรู้
ผสานกับร่างสองร่างที่ยังคงโถมกายรับส่งเชื่อมโยงกันอยู่
“เกลียดทุกสิ่ง
ยกเว้น...นาย”
กลับไปเม้นที่เด็กดีนะคะ >>>กด<<<
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น