หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2556

[SF] Chanyeol x Suho - Definition of love [1/2]






จุนมยอนร้องปรามออกมาแต่ก็ได้เพียงความเงียบและรอยยิ้มในแบบเดิมตอบกลับมา ริมฝีปากที่แดงช้ำเผยอออกเพื่อกอบโกยลมหายใจเข้าปอด ทั้งที่อยากจะร้องออกมาก็ได้แต่กลั้นเสียงเอาไว้ และครางในลำคอด้วยความทรมาน ยามที่สัมผัสอุ่นชื้นหยอกเล่นกับยอดอกของเขา


“หอมจริงๆด้วยนะครับ..คุณจุนมยอนเนี่ย..”


คนถูกเอ่ยชื่อทำได้แค่เบนสายตาหนี ปล่อยให้น้ำตามันซึมออกมาทางหางตาด้วยความอดสู ตะขอกางเกงถูกปลดออกจากกัน พร้อมกับที่มือร้อนและสากล้วงเข้าไปด้านในสัมผัสกับส่วนกลางลำตัว จนจุนมยอนต้องดึงรั้งคอเสื้อของเจ้าของมือนั้นเอาไว้


ฝ่ามือใหญ่ค่อยๆสัมผัสและบีบเค้นเบาๆ สลับกับริมฝีปากที่วนเวียนกลับมาขโมยจูบครั้งแล้วครั้งเล่า ลิ้นร้อนที่เกี่ยวรับกันทำให้ชานยอลกดยิ้มลึกที่ชักนำและทำเอาจุนมยอนหลงกลและมัวเมาไปกับรสจูบและการกระทำของเขาได้ ฝ่ามืออีกข้างสอดผ่านกางเกงทางด้านหลังแกล้งบีบเค้นก้นนิ่มๆ พร้อมกับมือด้านหน้าที่ยังคงปรนเปรอให้กับเจ้านายตัวเล็กและนั่นก็ทำเอาคนที่ถูกป้อนจูบครางไม่เป็นภาษา


“อ..อย่า…”


ยิ่งได้ฟังเสียงห้ามปราม มือที่กอบกุมแท่งเนื้อร้อนอยู่ก็ยิ่งกดน้ำหนักลงมากขึ้น ส่วนฝ่ามืออีกข้างที่บีบเค้นบั้นท้ายนิ่มก็ดึงรั้งกางเกงและชั้นในที่มันเกะกะให้มันหลุดออกจากสะโพกไป  ใบหน้าหวานผินไปทางด้านหลังยามที่ถูกคนที่สวมกอดเอาไว้ทำรอยอยู่กับซอกคอครั้งแล้วครั้งเล่า ฝ่ามือเล็กขยุมเรือนผมสีน้ำตาลเข้มเอาไว้ พยายามขบกัดริมฝีปากตนเองกลั้นเสียงน่าอายไม่ให้ออกมา


“นอกจากหอมแล้ว ผิวก็นุ่มด้วยนะครับ..”


ชานยอลพึมพำเบาๆพร้อมกับจูบที่หลังใบหูแล้วแกล้งขบเม้มใบหูนิ่มเอาไว้ด้วยความหมั่นเขี้ยว ข้อนิ้วยาวๆสอดแทรกเข้าไปในช่องทางเบื้องหลังทำเอาน้ำตาเม็ดเล็กร่วงเผาะออกมาจากดวงตาคู่สวย จุนมยอนทำเพียงแค่ผลักอีกคนออกไป แต่แรงอันน้อยนิดก็ทำให้ชานยอลจูบที่หางตาปลอบขวัญคนตัวเล็กและเร่งจังหวะมือด้านหน้าเพื่อส่งคนตัวเล็กให้ไปถึงฝั่งฝัน 


“อ..อย่า..ปล่อยฉัน..อ๊ะ!


หลังจากที่สุดปลายทางของห้วงอารมณ์ แข้งขาทั้งสองข้างที่ทรงตัวยืนอยู่ก็อ่อนพับ จนชานยอลต้องช้อนกอดเอาไว้ นิ้วมือที่สอดอยู่ช่องทางเบื้องหลังก็ยังคงทำหน้าที่ของมัน ริมฝีปากก็ยังคงพรมจูบเล่นสนุกกับเรือนร่างขาวผ่องอย่างไม่รู้จักเบื่อ


“คุณจุนมยอนเชื่อเรื่องความรักมั้ยครับ?”


“ป..ปล่อยฉัน....”  คนถูกถามไม่ใส่ใจที่จะตอบคำถามใดๆทั้งสิ้น ทำเพียงแค่อ้อนวอนขอร้องให้อีกคนยอมปล่อยตนเองไปเสียที ชานยอลใช้มือข้างที่ว่างปลดเข็มขัดของตนเองออก ก่อนจะปลดตะขอแล้วรั้งซิปลง แต่ก็ถูกฝ่ามือเล็กๆทั้งผลักทั้งทุบจนรู้สึกเจ็บขึ้นมาเล็กน้อย


“ปล่อยไม่ได้หรอก”


เสียงทุ้มกระซิบชิดใบหู ทำให้จุนมยอนช้อนสายตาที่มีแต่คำถาม สบตากับเจ้าของคำพูด และก็ไม่ได้คำตอบใดๆนอกจากจูบที่ช่วงชิมลมหายใจ จูบที่ดึงเอาความเป็นตัวจุนมยอนที่เย่อหยิ่งไปจนหมดสิ้น หลงเหลือไว้แต่เพียงลูกนกปีกหักตัวเล็กๆเท่านั้น


“จนกว่า...”


คำพูดที่ทำเอาคนฟังทั้งสับสน และไม่เข้าใจถูกลืมไปเมื่อเรียวขาขาวถูกชานยอลรั้งขึ้นไปเกี่ยวกับเอวสอบของตนเอง จุนมยอนพยายามที่จะห้ามปรามแต่ก็หมดหนทาง เมื่อก้านนิ้วยาวถูกถอนออกไปจากช่องทางเบื้องหลังแล้วแทนที่ด้วยสิ่งอื่นแทน


“เจ็บ...ป.ปล่อย..”


เสียงสั่นเครือขอความเห็นใจไม่ได้ทำให้ชานยอลยอมหยุด กลับกันยามที่แทรกกายเข้าไปในช่องทางเบื้องหลังที่ตอดรัดและกลืนกินเขาเอาไว้ ก็ยิ่งทำให้การควบคุมตัวเองทุกอย่างเท่ากับศูนย์ ฝ่ามือใหญ่ที่จับต้นขาขาวเอาไว้ลูบมันไปมาอย่างเพลินมือ ก่อนที่จะค่อยไล้มาถึงเอวบาง อ้อมแขนที่รัดแน่นตรงช่วงเอวมีมากขึ้นทำให้จุนมยอนรู้สึกอึดอัดแต่ก็ไม่สามารถดิ้นเพื่อที่จะให้ตัวเองหลุดพ้นได้ เพราะยิ่งดิ้นส่วนที่แทรกเข้ามาในกายของเขาก็จะยิ่งกดลึกเข้ามามากเท่านั้น


จุนมยอนถูกช้อนตัวขึ้น แผ่นหลังบางที่ยังคงมีเชิ้ตตัวบางติดกายครูดไปกับผนังลิฟท์ ท่อนขาขาวทั้งสองข้างถูกจับให้ยกขึ้นเกี่ยวกับเอวสอบของคนที่แทรกกายเข้าหา แม้จะทั้งเสียวและเจ็บแทบขาดใจ แต่ก็ทำได้แค่ครางรับในลำคอ เพราะริมฝีปากของทั้งคู่ที่ยังดูดดึงกันอยู่


แรงโถมกายของชานยอลที่มากขึ้น ทำเอาคนตัวเล็กเกร็งต้นขาที่เกี่ยวอยู่ที่เอว ก่อนจะวาดแขนโอบรัดรอบคอคนตัวสูงกว่าเอาไว้แน่น 


“อื้อ!!!


ฝ่ามือเล็กขยุมทึ้งเส้นผมสีน้ำตาลเข้มเต็มแรง เมื่อยามจังหวะที่ชานยอลส่งกายเข้าหามันถี่และกระชั้นมากขึ้น จุนมยอนขบกัดริมฝีปากตนเองเอาไว้แน่นเพื่อกลั้นเสียงน่าอายที่ดังเล็ดรอดออกมา เขาจะไม่มีวันสุขสมไปกับการกระทำที่เลวทรามของผู้ชายคนนี้เด็ดขาด


“ถ้ามีความสุขก็ร้องออกมาสิครับ ร้องออกมาให้รู้ว่าคุณต้องการผม”


ใบหน้าหวานส่ายพรืด พยายามกลั้นเสียงเอาไว้ แต่คนอย่างปาร์คชานยอลก็ไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น ใบหน้าหล่อฝังลงกับแผ่นอกขาว ลากลิ้นสัมผัสกับยอดอก จนคนที่ถูกช้อนอุ้มอยู่ดิ้นพล่าน แรงดึงทึ้งเส้นผมเป็นตัวบอกได้เป็นอย่างดี ว่าอีกไม่นานจุนมยอนจะต้องกรีดร้องออกมาให้เขาได้ฟังเสียงหวานๆนี้ชัดเจนเต็มสองหูแน่ๆ


“บอกสิครับว่าคุณจุนมยอนต้องการ..ปาร์คชานยอล”


ลิ้นร้อนตวัดถี่รัวจนคนตัวเล็กต้องแอ่นกายรับ ไหนจะช่องทางเบื้องหลังที่ถูกรุกราน มันทำเอาคิมจุนมยอนแทบบ้า เสียงดูดดึงยอดอกอย่างหยาบโลนดังลั่นกล่องสี่เหลี่ยมใบนี้ ไหนจะเสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังตามจังหวะการกระแทกของชานยอลที่ส่งเข้าหา ยิ่งทำให้คนถูกกระทำปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่อาย


“พูดสิ จุนมยอน!


น้ำเสียงแข็งกร้าวตวาดลั่นลิฟท์ทำให้คนที่แพ้อย่างย่อยยับ ซบใบหน้าลงกับไหล่หนา ชานยอลพรมจูบอยู่ข้างซอกคอ ก่อนจะเคลื่อนใบหน้ามาจูบข้างแก้มที่อาบไปด้วยน้ำตา เทียวจูบเทียวหอมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งลุ่มหลงและมัวเมา อยากจะได้ อยากครอบครอง อยากให้จุนมยอนเป็นของเขาแค่คนเดียว


“ฉันเกลียดนิยามรัก..เกลียดคำที่บอกว่ารักคือการเสียสละ”


สรรพนามที่ใช้เปลี่ยนไป เมื่อจุนมยอนไม่ได้ต่อต้านเขาอย่างในตอนแรกแล้ว คนตัวเล็กเพียงแค่ซบใบหน้าลงข้างซอกคอ แล้วครางรับยามที่กายของเขามันกระแทกเข้าไปจนถึงจุดกระสัน


“เกลียดที่บอกว่ารักมันไม่ใช่การครอบครอง”


แรงกระแทกถี่รัวมากยิ่งขึ้นทำเอาจุนมยอนกรีดร้องและครางไม่เป็นภาษา อ้อมแขนเล็กหากแต่อบอุ่นในความรู้สึกของชานยอลก็ยังโอบอยู่ที่รอบคอเขา แก้มขาวนวลก็ยังแนบอยู่กับแก้มของเขา..


“เกลียดทุกนิยามที่มันบอกให้ฉันต้องปล่อยมือจากคนที่รักไป”


หยดน้ำตาไหลซึมออกมาจากแววตาที่อ่อนแสงของคนพูด ความรู้สึกที่มีอยู่ท่วมท้นค่อยๆถูกถ่ายทอดออกมาให้อีกคนได้รับรู้ ผสานกับร่างสองร่างที่ยังคงโถมกายรับส่งเชื่อมโยงกันอยู่



“เกลียดทุกสิ่ง ยกเว้น...นาย”








กลับไปเม้นที่เด็กดีนะคะ >>>กด<<<






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น