หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2556

[SF] Chanyeol x Suho - Everythings ♥Everyday♥Everywhere (Airplane)






ข้อมูลต่างๆในการประชุมปรึกษาหารือที่จะขยายฐานบริษัทไปยังประเทศใกล้เคียงอย่างญี่ปุ่น ถูกสายตาคมกริบของคิมจุนมยอนไล่อ่านอย่างคร่าวๆ ผ่านสมาร์ทโฟนในมือ นิ้วเรียวขยับแว่นเล็กน้อยพร้อมกับทิ้งความสนใจทั้งหมดไปให้กับเนื้อหา และข้อมูลที่ต้องตกลงกับบริษัทที่จะร่วมลงทุนอย่างตั้งอกตั้งใจ 


ดวงตาคู่สวยละจากหน้าจอแล้วเบนสายตาออกไปยังเบื้องนอกของนกเหล็กลำใหญ่ที่กำลังพาผู้โดยสารหลายร้อยชีวิตมุ่งตรงไปยังประเทศญี่ปุ่น  พลางถอนหายใจเบาๆ อันที่จริงแล้วตามกำหนดเดิมแล้วคนที่จะต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเล และมาเจรจาข้อตกลงต่างๆกับเขาครั้งนี้คือผู้เป็นลุง แต่ด้วยเหตุอะไรก็ไม่อาจทราบได้จู่ๆคุณลุงก็ต่อสายโทรศัพท์มาหาพร้อมกับบอกว่าติดงานด่วน เลยส่งให้ชานยอลมารับผิดชอบงานนี้ร่วมกับเขาแทน


ไม่ได้ถามหลานตัวเองสักคำ!


“คิดถึงผมอยู่หรอครับ? คุณจุนมยอน....”


เสียงกระซิบข้างหูทำให้เจ้าของชื่อตวัดสายตาหันกลับไปมองคนเรียกชื่อด้วยสายตาไม่เป็นมิตร รอยยิ้มยียวน และสายตากรุ้มกริ่มที่จ้องมองมาทำให้จุนมยอนเลือกที่จะเงียบไม่ต่อปากต่อคำด้วย แล้วหันกลับมาจ้องข้อมูลมากมายที่อยู่บนหน้าจอสมาร์ทโฟนต่อ

“พูดด้วยก็ไม่พูดด้วย..งั้น ไม่ต้องพูดดีไหมนะ”


ถ้อยคำกวนประสาททำให้จุนมยอนต้องข่มลมหายใจเข้าออกลึกๆ เพื่อควบคุมอารมณ์ พยายามห้ามตัวเองไม่ให้ลงไม้ลงมือกับผู้ชายที่กวนประสาทเป็นอันดับหนึ่งอย่างชานยอลไปเสียก่อน


“ที่นั่งอยู่ตรงนี้หรือไง นั่งตรงไหนก็กลับไป อยู่ใกล้ๆแล้วอึดอัด”


ท่าทีหยิ่งยโสของจุนมยอนที่เห็นจนเป็นอะไรที่ชินตาแล้วสำหรับปาร์คชานยอล ทำให้คนตัวสูงนั่งอมยิ้มแล้วจ้องหน้าเจ้านายตัวเล็กที่โดนเขากวนสมาธิ แต่ก็ยังพยายามทำเป็นตั้งใจอ่านไอ้ตัวหนังสือบ้าบอนั่นอยู่ ทั้งที่ระยะเวลาเกือบอาทิตย์ที่ไปญี่ปุ่นนี้ จุนมยอนมีเวลาอ่านมันตั้งเยอะแยะมากมาย โดยไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้ 


“ถ้าอึดอัด เดี๋ยวช่วยมั้ย?”


ไม่พูดเปล่า เจ้าของคำพูดยังยืนยันเจตนาด้วยการวางมือลงตรงต้นขาขาวๆที่ถูกปกปิดด้วยกางเกงแสล็กสีเข้ม แล้วลูบคลึงเบาๆจนได้หน้าสายตาขุ่นมัวพร้อมกับข้อศอกเล็กๆที่กระทุ้งกลับมาจนรู้สึกจุก


“ลามก! บ้ากาม! ประสาท!


จุนมยอนด่าคนที่ยิ้มส่งสายตาวิบวับมาด้วยน้ำเสียงที่แทบจะเรียกว่ากระซิบให้ได้ยินกันเพียงสองคน และก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อมือหนาที่วางอยู่ตรงต้นขาเลื่อนไปตรงส่วนที่อยู่ระหว่างขาทั้งสอง นิ้วชี้ลากผ่านเบาๆก่อนจะลงน้ำหนักทั้งอุ้งมือใหญ่ๆนั้น เค้นคลึง บีบไปจนซึ่งที่อยู่ในกำมือมันกำลังดันตัวขึ้นสู้กับมือ


“แล้วจุนมยอนจะทนอึดอัดแบบนี้หรอ?”


จุนมยอนเบี่ยงหน้าหลบคนที่เอี้ยวตัวมากระซิบชิดใบหู ก่อนจะใช้ฝ่ามือผลักไหล่คนที่โถมตัวเข้าหาให้ถอยห่างออกไป ก่อนจะชะโงกหน้าดูบรรดาทีมงานที่นั่งอยู่ถัดไปด้วยท่าทีร้อนรน แต่เมื่อเห็นว่าพากันหลับไปเสียหมดก็อดที่จะโล่งใจไม่ได้ 


“นี่มันบนเครื่องบินนะ คนเยอะแยะ อายคนเค้ามั่งเถอะ”


พูดจบน้ำหนักมือก็เพิ่มมากขึ้น ก่อนซิปจะถูกเลื่อนลงมาจนสุด นิ้วมือหนาวางตรงท้องน้อยแล้วค่อยๆสอดมือเข้าไปผ่านชั้นในตัวบาง ผ้าห่มที่วางอยู่ใกล้ๆกับตักของคนตัวเล็กเป็นสิ่งที่ชานยอลเลือกที่จะหยิบขึ้นมาคลุมหน้าขาของคนที่ตนกำลังลวนลามเอาไว้


“ปาร์คชานยอล!


เสียงตวาดชื่อที่เป็นเพียงแค่เสียงกระซิบทำให้ชานยอลยกยิ้มอยู่ในใจ ก่อนจะใช้นิ้วมือบีบคลึง จนคนที่นั่งอยู่เริ่มจะกระสับกระส่าย แผ่นหลังบางเริ่มจะไม่ติดเบาะ สมาร์ทโฟนในมือก็ร่วงหล่นไปบนตัก จนชานยอลต้องเป็นคว้ามันไปวางที่อื่นแทน 


“ถึงแม้ว่าฉันจะอยากได้ยินเสียงของจุนมยอนแค่ไหนก็เถอะนะ แต่ถ้าส่งเสียงตอนนี้คนอื่นจะตกใจแล้วหันมามองกันหมดนะที่รัก”


จุนมยอนเม้มริมฝีปากแน่น ได้แต่ส่งสายตาคาดโทษไปให้คนที่ทำอะไรไม่รู้จักที่รู้จักเวลาบ้างเลย แต่เพราะความอึดอัดที่ชานยอลเป็นคนปลุกปั้นมันขึ้นมา ทำให้ต้องจำยอมถูกพาไปเข้าห้องน้ำโดยมีคนที่อ้างว่าหวังดีประคองพาไปตลอดทาง 


“อ๊ะ!” 


ทันทีที่ถูกดันเข้ามาภายในห้องที่คับแคบนี้ชานยอลก็ปิดบานประตูลงเพื่อปิดกั้นทั้งตนเองและคนตัวเล็กที่ยืนเข่าอ่อนอยู่ในอ้อมกอดเขา ทันทีที่ได้อยู่กันสองต่อสองและไม่ต้องแคร์สายตาใคร แก้มขาวๆ ริมฝีปากแดงๆ ก็ถูกครอบครองครั้งแล้วครั้งเล่า จุนมยอนถูกดันไปจนแผ่นหลังชิดกับบานประตู พร้อมกับมือหนาทั้งสองข้างรูดกางเกงที่มันเกะกะอยู่ให้ลงไปกองที่ข้อเท้า


“ช..ชานยอล”


ฝ่ามือเล็กผลักไหล่ของคนตัวสูงที่นั่งชันเข่าอยู่เบื้องหน้าให้ถอยห่างออกไป แต่ก็ทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้ หนำซ้ำขาขาวๆข้างหนึ่งยังถูกจับพาดไปบนไหล่กว้างของชานยอล อ้อมแขนแกร่งรวบกอดเอวบางเข้ามาแนบชิด ทำให้ท่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้มันน่าอายเกินกว่าที่จุนมยอนจะพูดอะไรออกมาได้


“อยู่ในนี้แล้ว อยากจะเรียกชื่อฉันก็เรียกได้ตามสบายเลยนะ ฉันอยากได้ยินเสียงนาย”


ชานยอลทิ้งคำพูดเอาไว้ก่อนจะกดจูบที่ต้นขาขาวด้านใน จนเสียงที่เนื้อขาวๆถูกริมฝีปากดูดดึงมันดังชัดเจน คนถูกลวนลามทรงตัวแทบไม่อยู่ เมื่อริมฝีปากที่สร้างรอยไว้ที่ต้นขาเมื่อครู่นี้กำลังกลืนกินส่วนที่มันขยายตัวและสร้างความอึดอัดให้กับจุนมยอนเอาไว้เข้าไป ลิ้นร้อนที่ลากจากโคนจนมาสุดปลายทำให้จุนมยอนเกร็งไปทั้งตัว 


“ชา..ชานยอล..ฉ..ฉัน”


เสียงที่ดังจากริมฝีปากบางผะแผ่วและขาดห้วง เมื่อฟันซี่คมครูดลงกับแท่งเนื้อร้อน ความรู้สึกทั้งอึดอัดและเสียวซ่านมันทำให้เขาอยากจะกรีดร้องออกมา แต่ก็ทำได้แค่ครางงึมงำในลำคอ รู้สึกเหมือนกำลังถูกมอมเมา และไม่สามารถควบคุมตัวเองได้


“ปลดกระดุมเสื้อออกทีสิจุนมยอน”


น่าแปลกที่คนถูกสั่งก็ยอมปลดกระดุมเสื้อตนเองออกอย่างง่ายดาย มือข้างหนึ่งลากขึ้นไปสัมผัสยอดอกที่มันชูชันสู้มือแล้วบีบเค้นจนจุนมยอนครางออกมาไม่เป็นภาษา ริมฝีปากก็ยังคงปรนเปรอส่วนเบื้องล่างให้กับคนตัวเล็ก 


“ม..มัน..อึดอัด”


คนตัวเล็กครางออกมา ก่อนจะย่อตัวลงกอดศรีษะของคนที่กำลังสร้างความสุขให้กับตนเอง ขาข้างที่พาดอยู่บนไหล่ถูกดึงรั้งไปมากขึ้นด้วยมือของเจ้าของไหล่กว้างนั้น ส่วนกลางกายที่แนบชิดกับริมฝีปากของชานยอลทำให้เม็ดเหงื่อไหล่ซึมมาตามใบหน้าขาวใส ลิ้นร้อนที่หยอกเล่นกับส่วนปลายทำให้สิ่งที่ถูกเก็บกั้นไว้ใกล้จะปลดปล่อยออกมา แต่ยังไม่ทันที่จะถึงปลายทางชานยอลกลับหยุดเอาเสียดื้อ ละริมฝีปากออกมาแล้วลากลิ้นร้อนสลับกับบดจูบขึ้นมาตั้งแต่หน้าท้องขาวไปจนถึงยอดอก 


 ชานยอลดันตัวขึ้นมาแล้วขบฟันซี่คมลงกับยอดอกที่ขึ้นสีแดงจัดเพราะแรงบดจูบของเขาก่อนหน้านี้ มืออีกข้างก็บีบเค้นลูบคลึงอย่างมันมือ คนถูกกระตุ้นอารมณ์ได้แต่หอบหายใจถี่ ครางเสียงหวานออกมาเพราะความเสียวซ่าน


“อึดอัดมั้ย?”


คนตัวเล็กพยักหน้ารัวๆ และสะดุ้งเบาๆ เมื่อคนถามกดจูบและงับลงที่ซอกคอจนขึ้นรอยฟัน มือที่ลูบไล้ไปทั่วร่างกายข้างหนึ่งก็โอบกอดแล้วบีบเค้นบั้นท้ายกลมกลึง ส่วนอีกข้างที่ละจากการบีบเค้นยอดอกก็ลากลงไปรูดดึงส่วนที่ตื่นตัวเต็มที่เพื่อช่วยคนที่กำลังร้อนรุ่มไปทั้งร่างกาย ชานยอลกดยิ้มลึกเมื่อคนตัวเล็กน่ารัก และตอบอะไรได้ตรงใจเขากว่าครั้งก่อนๆที่มักจะชอบด่าทอกัน พลางเหลือบมองลูกชายตนเองที่มันก็ดันสู้มาเพราะความต้องการไม่ต่างกัน


“จูบฉันหน่อยสิ ถ้าจุนมยอนจูบแล้วฉันจะให้รางวัลนะ”


คำหลอกล่อที่ชานยอลกระซิบข้างหูทำให้คนตัวเล็กโอบรอบคอคนที่ออกคำสั่งโดยไม่ต้องคิดแล้วบดเบียดริมฝีปากลงไป แม้จะเป็นคนเริ่มจูบก่อนก็ตามแต่สุดท้ายแล้วคนที่โหยหาและลุ่มหลงไปกับสัมผัสทั้งหมดกลับเป็นชานยอลเสียเอง หลงเสียจนไม่อยากจะละริมฝีปากออกไปจากความหอมหวานนี้


“จูบ..ล..แล้ว”


ปากแดงเจ่อกระซิบที่ข้างหูทำให้ชานยอลฟัดแก้มขาวเป็นรางวัลไปหลายที และจัดการปลดเปลื้องกางเกงตนเองลง เมื่อความต้องการที่มีต่อคนตัวขาวมันมากเสียจนเขาแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้วหากไม่ได้จุนมยอนในตอนนี้


“ครับคนเก่ง”


มือหนาเร่งจังหวะจนคนตัวขาวปลดปล่อยออกมา น้ำขุ่นคาวที่เลอะเต็มอุ้งมือถูกชโลมผ่านก้านนิ้วยาว และส่งผ่านเข้าไปในช่องทางเบื้องหลัง เจ้านายตัวเล็กถูกดันให้หันหน้าเข้าหาบานประตูก่อนจะก้านนิ้วสองสามนิ้วที่อยู่ในช่องทางเบื้องหลังจะขยับเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับบทรักครั้งนี้


“ช..ชาน..ยอล..มัน อื้ออออ!!


เสียงครางฟังไม่ได้ศัพท์มันทำให้ชานยอลยิ่งต้องการ มันอึดอัดจนรู้สึกว่าร่างกายจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ และเมื่อทนต่อความทรมานเหล่านั้นไม่ไหว ก้านนิ้วยาวก็ถูกถอนออก ก่อนจะแทนที่ด้วยสิ่งที่ใหญ่กว่า ฝ่ามือเล็กของจุนมยอนแนบไปกับบานประตูเพื่อพยุงตัวเองเอาไว้ ฟันซี่เล็กขบกัดริมฝีปากตนเองเอาไว้แน่น เมื่อยามที่ชานยอลค่อยๆแทรกกายเข้ามามันสร้างความเจ็บปวดให้กับเขาอยู่พอตัว


“ช..ชา..น..บ..เบาๆ”


ใบหน้าหวานเอนมาซบกับอกของคนตัวสูงอย่างหมดแรงเมื่อความต้องการที่มีของชานยอลมันมาก และเข้ามาในร่างกายเขาถี่รัวจนทรงตัวไม่ได้ ช่องทางเบื้องหลังที่ถูกกระแทกเข้าออกอีกทั้งมือหนาที่บีบเค้นกับอก ทั้งเล่นสนุกกับส่วนกลางกาย ทำให้จุนมยอนแทบจะขาดใจตายเสียตรงนี้


“ขอ..โทษ..แต่ฉันอยากได้จุนมยอนจนทนไม่ไหวแล้ว”


คำพูดสุดท้ายที่ได้สนทนากันก่อนริมฝีปากบางจะถูกปิดกั้นเอาไว้ด้วยจูบที่พรากลมหายใจ และตามมาด้วยเสียงครางสลับกับเสียงลมหายใจถี่หอบถี่ และเสียงเนื้อกระแทกเนื้อที่ดังก้องอยู่ภายในห้องแคบๆนั้น บนเครื่องบินที่ทะยานอยู่สูงเสียดฟ้า


นี่มันแค่เริ่มต้นของทริปญี่ปุ่นครั้งนี้เท่านั้นเอง....




Tbc

อ่านแล้วช่วยกลับไปเม้นที่เด็กดีด้วยนะคะ ^^ >>Dek-d<< 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น