ข้อมูลต่างๆในการประชุมปรึกษาหารือที่จะขยายฐานบริษัทไปยังประเทศใกล้เคียงอย่างญี่ปุ่น
ถูกสายตาคมกริบของคิมจุนมยอนไล่อ่านอย่างคร่าวๆ ผ่านสมาร์ทโฟนในมือ
นิ้วเรียวขยับแว่นเล็กน้อยพร้อมกับทิ้งความสนใจทั้งหมดไปให้กับเนื้อหา
และข้อมูลที่ต้องตกลงกับบริษัทที่จะร่วมลงทุนอย่างตั้งอกตั้งใจ
ดวงตาคู่สวยละจากหน้าจอแล้วเบนสายตาออกไปยังเบื้องนอกของนกเหล็กลำใหญ่ที่กำลังพาผู้โดยสารหลายร้อยชีวิตมุ่งตรงไปยังประเทศญี่ปุ่น
พลางถอนหายใจเบาๆ
อันที่จริงแล้วตามกำหนดเดิมแล้วคนที่จะต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเล
และมาเจรจาข้อตกลงต่างๆกับเขาครั้งนี้คือผู้เป็นลุง
แต่ด้วยเหตุอะไรก็ไม่อาจทราบได้จู่ๆคุณลุงก็ต่อสายโทรศัพท์มาหาพร้อมกับบอกว่าติดงานด่วน
เลยส่งให้ชานยอลมารับผิดชอบงานนี้ร่วมกับเขาแทน
ไม่ได้ถามหลานตัวเองสักคำ!
“คิดถึงผมอยู่หรอครับ?
คุณจุนมยอน....”
เสียงกระซิบข้างหูทำให้เจ้าของชื่อตวัดสายตาหันกลับไปมองคนเรียกชื่อด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
รอยยิ้มยียวน
และสายตากรุ้มกริ่มที่จ้องมองมาทำให้จุนมยอนเลือกที่จะเงียบไม่ต่อปากต่อคำด้วย
แล้วหันกลับมาจ้องข้อมูลมากมายที่อยู่บนหน้าจอสมาร์ทโฟนต่อ
“พูดด้วยก็ไม่พูดด้วย..งั้น
ไม่ต้องพูดดีไหมนะ”
ถ้อยคำกวนประสาททำให้จุนมยอนต้องข่มลมหายใจเข้าออกลึกๆ
เพื่อควบคุมอารมณ์ พยายามห้ามตัวเองไม่ให้ลงไม้ลงมือกับผู้ชายที่กวนประสาทเป็นอันดับหนึ่งอย่างชานยอลไปเสียก่อน
“ที่นั่งอยู่ตรงนี้หรือไง
นั่งตรงไหนก็กลับไป อยู่ใกล้ๆแล้วอึดอัด”
ท่าทีหยิ่งยโสของจุนมยอนที่เห็นจนเป็นอะไรที่ชินตาแล้วสำหรับปาร์คชานยอล
ทำให้คนตัวสูงนั่งอมยิ้มแล้วจ้องหน้าเจ้านายตัวเล็กที่โดนเขากวนสมาธิ
แต่ก็ยังพยายามทำเป็นตั้งใจอ่านไอ้ตัวหนังสือบ้าบอนั่นอยู่
ทั้งที่ระยะเวลาเกือบอาทิตย์ที่ไปญี่ปุ่นนี้ จุนมยอนมีเวลาอ่านมันตั้งเยอะแยะมากมาย
โดยไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้
“ถ้าอึดอัด
เดี๋ยวช่วยมั้ย?”
ไม่พูดเปล่า
เจ้าของคำพูดยังยืนยันเจตนาด้วยการวางมือลงตรงต้นขาขาวๆที่ถูกปกปิดด้วยกางเกงแสล็กสีเข้ม
แล้วลูบคลึงเบาๆจนได้หน้าสายตาขุ่นมัวพร้อมกับข้อศอกเล็กๆที่กระทุ้งกลับมาจนรู้สึกจุก
“ลามก! บ้ากาม!
ประสาท!”
จุนมยอนด่าคนที่ยิ้มส่งสายตาวิบวับมาด้วยน้ำเสียงที่แทบจะเรียกว่ากระซิบให้ได้ยินกันเพียงสองคน
และก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อมือหนาที่วางอยู่ตรงต้นขาเลื่อนไปตรงส่วนที่อยู่ระหว่างขาทั้งสอง
นิ้วชี้ลากผ่านเบาๆก่อนจะลงน้ำหนักทั้งอุ้งมือใหญ่ๆนั้น เค้นคลึง
บีบไปจนซึ่งที่อยู่ในกำมือมันกำลังดันตัวขึ้นสู้กับมือ
“แล้วจุนมยอนจะทนอึดอัดแบบนี้หรอ?”
จุนมยอนเบี่ยงหน้าหลบคนที่เอี้ยวตัวมากระซิบชิดใบหู
ก่อนจะใช้ฝ่ามือผลักไหล่คนที่โถมตัวเข้าหาให้ถอยห่างออกไป
ก่อนจะชะโงกหน้าดูบรรดาทีมงานที่นั่งอยู่ถัดไปด้วยท่าทีร้อนรน
แต่เมื่อเห็นว่าพากันหลับไปเสียหมดก็อดที่จะโล่งใจไม่ได้
“นี่มันบนเครื่องบินนะ
คนเยอะแยะ อายคนเค้ามั่งเถอะ”
พูดจบน้ำหนักมือก็เพิ่มมากขึ้น
ก่อนซิปจะถูกเลื่อนลงมาจนสุด
นิ้วมือหนาวางตรงท้องน้อยแล้วค่อยๆสอดมือเข้าไปผ่านชั้นในตัวบาง
ผ้าห่มที่วางอยู่ใกล้ๆกับตักของคนตัวเล็กเป็นสิ่งที่ชานยอลเลือกที่จะหยิบขึ้นมาคลุมหน้าขาของคนที่ตนกำลังลวนลามเอาไว้
“ปาร์คชานยอล!”
เสียงตวาดชื่อที่เป็นเพียงแค่เสียงกระซิบทำให้ชานยอลยกยิ้มอยู่ในใจ
ก่อนจะใช้นิ้วมือบีบคลึง จนคนที่นั่งอยู่เริ่มจะกระสับกระส่าย แผ่นหลังบางเริ่มจะไม่ติดเบาะ
สมาร์ทโฟนในมือก็ร่วงหล่นไปบนตัก จนชานยอลต้องเป็นคว้ามันไปวางที่อื่นแทน
“ถึงแม้ว่าฉันจะอยากได้ยินเสียงของจุนมยอนแค่ไหนก็เถอะนะ
แต่ถ้าส่งเสียงตอนนี้คนอื่นจะตกใจแล้วหันมามองกันหมดนะที่รัก”
จุนมยอนเม้มริมฝีปากแน่น
ได้แต่ส่งสายตาคาดโทษไปให้คนที่ทำอะไรไม่รู้จักที่รู้จักเวลาบ้างเลย
แต่เพราะความอึดอัดที่ชานยอลเป็นคนปลุกปั้นมันขึ้นมา ทำให้ต้องจำยอมถูกพาไปเข้าห้องน้ำโดยมีคนที่อ้างว่าหวังดีประคองพาไปตลอดทาง
“อ๊ะ!”
ทันทีที่ถูกดันเข้ามาภายในห้องที่คับแคบนี้ชานยอลก็ปิดบานประตูลงเพื่อปิดกั้นทั้งตนเองและคนตัวเล็กที่ยืนเข่าอ่อนอยู่ในอ้อมกอดเขา
ทันทีที่ได้อยู่กันสองต่อสองและไม่ต้องแคร์สายตาใคร แก้มขาวๆ ริมฝีปากแดงๆ ก็ถูกครอบครองครั้งแล้วครั้งเล่า
จุนมยอนถูกดันไปจนแผ่นหลังชิดกับบานประตู
พร้อมกับมือหนาทั้งสองข้างรูดกางเกงที่มันเกะกะอยู่ให้ลงไปกองที่ข้อเท้า
“ช..ชานยอล”
ฝ่ามือเล็กผลักไหล่ของคนตัวสูงที่นั่งชันเข่าอยู่เบื้องหน้าให้ถอยห่างออกไป
แต่ก็ทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้ หนำซ้ำขาขาวๆข้างหนึ่งยังถูกจับพาดไปบนไหล่กว้างของชานยอล
อ้อมแขนแกร่งรวบกอดเอวบางเข้ามาแนบชิด
ทำให้ท่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้มันน่าอายเกินกว่าที่จุนมยอนจะพูดอะไรออกมาได้
“อยู่ในนี้แล้ว
อยากจะเรียกชื่อฉันก็เรียกได้ตามสบายเลยนะ ฉันอยากได้ยินเสียงนาย”
ชานยอลทิ้งคำพูดเอาไว้ก่อนจะกดจูบที่ต้นขาขาวด้านใน
จนเสียงที่เนื้อขาวๆถูกริมฝีปากดูดดึงมันดังชัดเจน คนถูกลวนลามทรงตัวแทบไม่อยู่
เมื่อริมฝีปากที่สร้างรอยไว้ที่ต้นขาเมื่อครู่นี้กำลังกลืนกินส่วนที่มันขยายตัวและสร้างความอึดอัดให้กับจุนมยอนเอาไว้เข้าไป
ลิ้นร้อนที่ลากจากโคนจนมาสุดปลายทำให้จุนมยอนเกร็งไปทั้งตัว
“ชา..ชานยอล..ฉ..ฉัน”
เสียงที่ดังจากริมฝีปากบางผะแผ่วและขาดห้วง
เมื่อฟันซี่คมครูดลงกับแท่งเนื้อร้อน ความรู้สึกทั้งอึดอัดและเสียวซ่านมันทำให้เขาอยากจะกรีดร้องออกมา
แต่ก็ทำได้แค่ครางงึมงำในลำคอ รู้สึกเหมือนกำลังถูกมอมเมา
และไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
“ปลดกระดุมเสื้อออกทีสิจุนมยอน”
น่าแปลกที่คนถูกสั่งก็ยอมปลดกระดุมเสื้อตนเองออกอย่างง่ายดาย
มือข้างหนึ่งลากขึ้นไปสัมผัสยอดอกที่มันชูชันสู้มือแล้วบีบเค้นจนจุนมยอนครางออกมาไม่เป็นภาษา
ริมฝีปากก็ยังคงปรนเปรอส่วนเบื้องล่างให้กับคนตัวเล็ก
“ม..มัน..อึดอัด”
คนตัวเล็กครางออกมา
ก่อนจะย่อตัวลงกอดศรีษะของคนที่กำลังสร้างความสุขให้กับตนเอง
ขาข้างที่พาดอยู่บนไหล่ถูกดึงรั้งไปมากขึ้นด้วยมือของเจ้าของไหล่กว้างนั้น
ส่วนกลางกายที่แนบชิดกับริมฝีปากของชานยอลทำให้เม็ดเหงื่อไหล่ซึมมาตามใบหน้าขาวใส
ลิ้นร้อนที่หยอกเล่นกับส่วนปลายทำให้สิ่งที่ถูกเก็บกั้นไว้ใกล้จะปลดปล่อยออกมา
แต่ยังไม่ทันที่จะถึงปลายทางชานยอลกลับหยุดเอาเสียดื้อ ละริมฝีปากออกมาแล้วลากลิ้นร้อนสลับกับบดจูบขึ้นมาตั้งแต่หน้าท้องขาวไปจนถึงยอดอก
ชานยอลดันตัวขึ้นมาแล้วขบฟันซี่คมลงกับยอดอกที่ขึ้นสีแดงจัดเพราะแรงบดจูบของเขาก่อนหน้านี้
มืออีกข้างก็บีบเค้นลูบคลึงอย่างมันมือ คนถูกกระตุ้นอารมณ์ได้แต่หอบหายใจถี่
ครางเสียงหวานออกมาเพราะความเสียวซ่าน
“อึดอัดมั้ย?”
คนตัวเล็กพยักหน้ารัวๆ
และสะดุ้งเบาๆ เมื่อคนถามกดจูบและงับลงที่ซอกคอจนขึ้นรอยฟัน
มือที่ลูบไล้ไปทั่วร่างกายข้างหนึ่งก็โอบกอดแล้วบีบเค้นบั้นท้ายกลมกลึง
ส่วนอีกข้างที่ละจากการบีบเค้นยอดอกก็ลากลงไปรูดดึงส่วนที่ตื่นตัวเต็มที่เพื่อช่วยคนที่กำลังร้อนรุ่มไปทั้งร่างกาย
ชานยอลกดยิ้มลึกเมื่อคนตัวเล็กน่ารัก และตอบอะไรได้ตรงใจเขากว่าครั้งก่อนๆที่มักจะชอบด่าทอกัน
พลางเหลือบมองลูกชายตนเองที่มันก็ดันสู้มาเพราะความต้องการไม่ต่างกัน
“จูบฉันหน่อยสิ
ถ้าจุนมยอนจูบแล้วฉันจะให้รางวัลนะ”
คำหลอกล่อที่ชานยอลกระซิบข้างหูทำให้คนตัวเล็กโอบรอบคอคนที่ออกคำสั่งโดยไม่ต้องคิดแล้วบดเบียดริมฝีปากลงไป
แม้จะเป็นคนเริ่มจูบก่อนก็ตามแต่สุดท้ายแล้วคนที่โหยหาและลุ่มหลงไปกับสัมผัสทั้งหมดกลับเป็นชานยอลเสียเอง
หลงเสียจนไม่อยากจะละริมฝีปากออกไปจากความหอมหวานนี้
“จูบ..ล..แล้ว”
ปากแดงเจ่อกระซิบที่ข้างหูทำให้ชานยอลฟัดแก้มขาวเป็นรางวัลไปหลายที
และจัดการปลดเปลื้องกางเกงตนเองลง เมื่อความต้องการที่มีต่อคนตัวขาวมันมากเสียจนเขาแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้วหากไม่ได้จุนมยอนในตอนนี้
“ครับคนเก่ง”
มือหนาเร่งจังหวะจนคนตัวขาวปลดปล่อยออกมา
น้ำขุ่นคาวที่เลอะเต็มอุ้งมือถูกชโลมผ่านก้านนิ้วยาว และส่งผ่านเข้าไปในช่องทางเบื้องหลัง
เจ้านายตัวเล็กถูกดันให้หันหน้าเข้าหาบานประตูก่อนจะก้านนิ้วสองสามนิ้วที่อยู่ในช่องทางเบื้องหลังจะขยับเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับบทรักครั้งนี้
“ช..ชาน..ยอล..มัน
อื้ออออ!!”
เสียงครางฟังไม่ได้ศัพท์มันทำให้ชานยอลยิ่งต้องการ
มันอึดอัดจนรู้สึกว่าร่างกายจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
และเมื่อทนต่อความทรมานเหล่านั้นไม่ไหว ก้านนิ้วยาวก็ถูกถอนออก
ก่อนจะแทนที่ด้วยสิ่งที่ใหญ่กว่า ฝ่ามือเล็กของจุนมยอนแนบไปกับบานประตูเพื่อพยุงตัวเองเอาไว้
ฟันซี่เล็กขบกัดริมฝีปากตนเองเอาไว้แน่น
เมื่อยามที่ชานยอลค่อยๆแทรกกายเข้ามามันสร้างความเจ็บปวดให้กับเขาอยู่พอตัว
“ช..ชา..น..บ..เบาๆ”
ใบหน้าหวานเอนมาซบกับอกของคนตัวสูงอย่างหมดแรงเมื่อความต้องการที่มีของชานยอลมันมาก
และเข้ามาในร่างกายเขาถี่รัวจนทรงตัวไม่ได้
ช่องทางเบื้องหลังที่ถูกกระแทกเข้าออกอีกทั้งมือหนาที่บีบเค้นกับอก
ทั้งเล่นสนุกกับส่วนกลางกาย ทำให้จุนมยอนแทบจะขาดใจตายเสียตรงนี้
“ขอ..โทษ..แต่ฉันอยากได้จุนมยอนจนทนไม่ไหวแล้ว”
คำพูดสุดท้ายที่ได้สนทนากันก่อนริมฝีปากบางจะถูกปิดกั้นเอาไว้ด้วยจูบที่พรากลมหายใจ
และตามมาด้วยเสียงครางสลับกับเสียงลมหายใจถี่หอบถี่
และเสียงเนื้อกระแทกเนื้อที่ดังก้องอยู่ภายในห้องแคบๆนั้น
บนเครื่องบินที่ทะยานอยู่สูงเสียดฟ้า
นี่มันแค่เริ่มต้นของทริปญี่ปุ่นครั้งนี้เท่านั้นเอง....
Tbc
อ่านแล้วช่วยกลับไปเม้นที่เด็กดีด้วยนะคะ ^^ >>Dek-d<<
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น