หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Chanyeol x Suho - Everythings,Everyday,Everywhere(???)




                ล่วงเข้าคืนสุดท้ายของการมาทำงานและพักผ่อนที่ญี่ปุ่นทริปนี้แล้ว จุนมยอนอยากจะโวยวายแล้วทำร้ายร่างกายผู้ช่วยคนสำคัญที่คุณลุงจัดให้มาคู่กันกับเขาเสียเหลือเกิน ที่พาเอาวันพักผ่อนและช็อปปิ้งที่ควรจะเป็นไปมลายหายไปเสียหมด เมื่อแต่ละวันๆ แต่ละชั่วโมงที่ดำเนินไป ร่างกายแทบจะไม่ได้ห่างกันเลย ถ้าไม่หลับหรือเหนื่อยมากๆก็ยังต้องรับบทหนักกับการรักกันอะไรบ้าบอที่ชานยอลสรรหาคำมาเรียก คิดแล้วมันก็หงุดหงิด 



แล้วยิ่งทริปเมื่อวานที่ออกไปนั่งรับลมบนเรือก็ทำเอาเขาแทบหมดแรงตาย หลอกให้ดีใจในตอนแรก สุดท้ายถ้าพระอาทิตย์ไม่ตกดิน หมอนั่นก็คงไม่ยอมติดเครื่องแล้วพาขึ้นฝั่งหรอก ไม่รู้ว่าไปตายอดตายอยากมาจากไหน ในเมื่อเขาก็สนองให้ทุกวัน แทบจะวันละหลายๆรอบเลยด้วยซ้ำ นี่กะว่าจะประชดขังหมอนั่นไว้ในห้องให้ไม่ต้องทำไปเลยสักเดือนสองเดือนดูสิว่าจะลงแดงตายไหม ถ้าตายคิมจุนมยอนคนนี้จะเอาไปฝังให้!



“จุนมยอน”


เสียงทุ้มของคนที่เดินไล่ตามหลังมาไม่ได้ทำให้จุนนมยอนยอมหยุดเดินแล้วหันกลับไปคุย กลับกันคนตัวเล็กเลือกที่จะก้าวเดินต่อไป ยังไงภายในคืนนี้จนถึงวันพรุ่งนี้ที่ต้องกลับเกาหลี ชานยอลไม่มีทางได้แตะเขาแม้แต่ปลายเล็บหรอก และก็เหมือนว่าโชคจะเข้าข้างเมื่อระหว่างที่กำลังเดินหนีชานยอลอย่างเอาเป็นเอาตาย บรรดาเลขา และพนักงานที่เป็นคนของบริษัทตนเปิดประตูห้องออกมา เสียงคุยกัน และหัวเราะเฮฮาดังลั่นทันทีที่ประตูถูกเปิดออก


“อ้าว คุณจุนมยอน”


เจ้านายตัวเล็กหยุดชะงักแล้วชะโงกหน้าเข้าไปมองภายในห้อง เห็นเหล่าพนักงานเกือบสิบชีวิตที่นั่งเรียงราย พร้อมกับขวดเครื่องดื่มแอลกอฮล์นับสิบ ที่วางเกลื่อนอยู่ 


“สนใจมาดื่มด้วยกันมั้ยครับ?”


ชั่วขณะที่กำลังชั่งใจว่าควรก้าวเข้าไปหรือเดินหนีชานยอลต่อไป แต่แล้วคนตัวเล็กกลับเลือกหนทางแรก ก้าวเข้าไปร่วมวงกับบรรดาลูกน้อง แล้วเหวี่ยงค้อนให้กับอีกคนที่เพิ่งวิ่งตามเข้ามา เมื่ออยู่ต่อหน้าพนักงานนับสิบ มันเหมือนกับหลุมหลบภัยชั้นดีให้กับเขา จุนมยอนสามารถที่นั่งไตร่ถามและพูดคุยเรื่องทั่วไปกับคนใต้บังคับบัญชาได้อย่างสบายใจโดยที่ชานยอลทำได้เพียงแค่มองอยู่เงียบๆเท่านั้น 


“บอกตามตรงนะครับคุณจุนมยอน ผมคิดว่างานนี้มันจะล่มแล้วซะอีก”

         “นั่นสิครับ เพราะใครๆเขาก็รู้กันว่าคุณชานยอลกับคุณจุนมยอนน่ะไม่กินเส้นกันจะตาย แต่งานที่ผ่านไปได้ด้วยดีนี่ทำให้ผมเข้าใจแล้ว ว่าข่าวลือนั่นมันก็เป็นเรื่องที่คนเขาพูดไปเรื่อย..นึกสนุกปากแค่นั้น”



                ชายคนหนึ่งในวงสนทนาพูดขึ้น ก่อนอีกหลายคนจะร่วมแสดงความคิดเห็นและผสมโรงไปด้วยเสียงหัวเราะ พร้อมกับขวดเหล้าขวดเบียร์ที่ถูกเปิดอีกนับไม่ถ้วน อันที่จริงทุกๆคนจะคิดแบบนั้นก็ไม่ผิดเพราะต่อหน้าทุกคน พฤติกรรมที่แสดงออกไปมันชวนให้คิดแบบนั้นจริงๆ และก็ไม่ถือโทษโกรธคนพูดด้วย เพราะในเวลาแบบนี้ไม่ใช่เวลางานที่จะมานั่งใส่สูทแล้วพูดยกยอกันให้มันอึดอัด จุนมยอนทำเพียงแค่ส่งยิ้มบางๆแล้วรับแก้วเหล้าที่ถูกส่งมาให้ นั่งหัวเราะประสานไปกับทุกคน โดยมีสายตาของคนที่นั่งหน้านิ่งอยู่ตรงข้ามคอยลอบมองอยู่ตลอดเวลา


“ปั๊ก”


เท้าเล็กเตะขายาวๆของคนที่นั่งตีหน้ายักษ์ไปเต็มแรง ก่อนจะใช้ปลายเท้าวางทับลงไปบนหลังเท้าอีกคน จุดยิ้มบางๆที่มุมปากพร้อมกับใช้ฝ่าเท้าไล้เบาๆ ที่ทำแบบนั้นไปไม่ได้อยากจะยั่วหรือนึกพิศวาสอะไรขึ้นมาหรอก ก็แค่สะใจเวลาที่ยั่วไปแล้ว คนถูกยั่วทำได้แค่เพียงแค่เพียงนั่งจ้องหน้านิ่งๆ


เสียงหัวเราะและพูดคุยเงียบลงเมื่อแต่ละคนก็นอนกองระเนระนาด เพราะเล่นซัดกันเข้าไปแบบไม่บันยะบันยัง บ้างก็นอนกอดก่ายกัน บ้างก็นอนกอดขวดเหล้า แต่คนที่กินไปแค่เพียงไม่กี่แก้วอย่างเขา กับปาร์คชานยอลที่เรียกได้ว่าแทบไม่ได้แตะเลยถูกทิ้งให้นั่งจ้องหน้ากันอยู่แบบนั้น บางทีจุนมยอนก็คิดว่าสถานการณ์ตอนนี้เริ่มไม่ค่อยน่าไว้วางใจเท่าไหร่ แต่คนมากมายที่อยู่ภายในห้องน่าจะทำให้ชานยอลไม่กล้าทำอะไรน่าเกลียดๆหรอก


คนที่นั่งฟังตรงข้ามลุกพรวดก่อนจะเดินหนีเข้าครัวไปราวกับไม่สนใจกัน ซึ่งนั่นก็ถือว่าดีสำหรับเขาแล้ว อย่างน้อยคืนนี้ชีวิตของเขาคงจะสงบและได้พักผ่อนอย่างสบายใจ ไม่มีอะไรมารบกวนเสียที 


“น้ำเปล่าหน่อยไหม? เมารึเปล่าเนี่ย?”


แก้วน้ำเปล่าถูกยื่นมาให้ตรงหน้า พร้อมกับคนที่เขานึกสาปแช่งในใจก่อนหน้านี้นั่งลงข้างๆ จุนมยอนเหลือบมองหน้าคนที่ส่งแก้วให้ก่อนจะคว้าแก้วน้ำเปล่ามาแล้วดื่มรวดเดียวจนหมด แล้ววางแก้วลงบนโต๊ะ แกล้งขยับเข้าไปใกล้ๆคนที่ยังคงนั่งนิ่งเก๊กไม่เลิก


“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ”


นิ้วเรียวเกลี่ยบนอกเสื้อของอีกคน ก่อนจะขยับกายเข้าหา แกล้งกดปลายจมูกลงข้างแก้มพร้อมกับกลั้นหัวเราะแทบตายเมื่อคนที่นั่งนิ่งเริ่มมีปฏิกิริยาตอบรับ จุนมยอนมองมือที่วางอยู่ตรงต้นขาตนเองก่อนจะส่งมือไปลูบหลังมือนั้นเบาๆ 


“ไม่ได้หรอกนะ..คืนนี้อด”


ราวกับถูกผลักให้ตกจากที่สูง เมื่อความหวังที่จุนมยอนให้มามันพังลงไปตรงหน้า ที่แท้ก็แค่จะแกล้งกันอย่างนั้นน่ะหรอ แต่ถ้ายอมง่ายๆเห็นทีก็คงจะไม่ใช่ปาร์คชานยอลแล้วล่ะ 


“อดอะไรหรอ?”


ปั้นหน้าแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจในคำพูดนั้น พร้อมกับบีบเค้นต้นขาภายใต้กางเกงผ้าที่อีกคนสวมใส่อยู่อย่างหนักหน่วง จนเรียวขาเล็กพยายามขยับหนี ชานยอลตวัดสายตามองรอบๆห้องเมื่อเห็นว่าทุกคนพากันหลับสนิทก็ลอบยิ้มแล้วรีบเอื้อมมือไปสอดเข้าไปภายใต้กางเกงอย่างรวดเร็ว


“หยุดนะ!!


นิ้วชี้แตะที่ริมฝีปากแผ่วเบา เป็นเชิงบอกให้รู้ว่าอย่าเสียงดัง ในขณะที่มืออีกข้างลงน้ำหนักพยายามปลุกปั้นส่วนที่ยังสงบอยู่ให้ดันขึ้นช้าๆ จุนมยอนแทบอยากจะคว้าขวดเหล้าที่อยู่ใกล้มือที่สุดฟาดหัวชานยอลไปสักสองที ดูสิว่าความหื่นจะน้อยลงบ้างไหม


“นายยั่วก่อนเองนะ”


ชานยอลมองคนที่กัดริมฝีปากตัวเองแน่นแล้วมองหน้าเขากลับมาอย่างอาฆาตก็ได้แต่หลุดหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วรูดเร้าแท่งเนื้อร้อนให้โผล่พ้นกางเกงออกมา จุนมยอนพยายามตะปบขอบกางเกงเอาไว้เมื่อชานยอลพยายามถอดมันออก ใบหน้าหวานชักสีหน้าไม่พอใจจนอีกฝ่ายยอมละความพยายามออกไป


แต่อุ้งมือใหญ่ที่ยังกอบกุมความเป็นชายของเขายังคงเร่งจังหวะมากขึ้นเรื่อยๆ จนเจ้าของมันต้องวางมือเอาไว้กับไหล่กว้างเพื่อหาหลักยึด เสียงลมหายใจดังติดขัดเมื่อส่วนปลายของสิ่งที่ยังถูกชานยอลกอบกุมเอาไว้มันฉ่ำเยิ้มไปด้วยของเหลวสีขาวขุ่น เพียงแค่ชานยอลเร่งจังหวะมือและรูดเร้าอีกไม่กี่ครั้งความต้องการมากมายก็ถูกปลดปล่อยออกมาจนเลอะมือใหญ่ๆนั้น เรียวขาเล็กพยายามหุบเข้าหากันทันทีที่ได้ปลดปล่อยแล้ว แต่เจ้าของมือใหญ่กลับสอดมือเข้าไปภายใต้กางเกงลึกมากกว่านั้น


“อึก!


นิ้วกลางที่ชโลมด้วยน้ำขุ่นคาวถูกสอดเข้าไปในช่องทางเบื้องหลังอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ร่างบางกระตุกเบาๆ พร้อมกับจิกมือลงที่หัวไหล่ของชานยอลมากขึ้น พยายามจะขยับเรียวขาเข้ามาให้ชิดกันแต่มือที่ยังคงอยู่ภายในกางเกงกลับเป็นตัวที่ทำให้ต้องแยกขาออกกว้างอย่างจำใจ 


“ฮึก!!


ปลายเท้าจิกเกร็งกับพื้นพรมเมื่อข้อนิ้วที่สองแทรกเข้ามาบดเบียดกับนิ้วกลางที่ยังคงแช่ค้างอยู่ในตัว ใบหน้าหวานเริ่มมีเหงื่อซึมลงมา มันดูน่ามองและน่าเชยชมจนอดไม่ได้ ชานยอลขยับเข้าไปใกล้ร่างที่เนื้อตัวสั่นเทาช้าๆแล้วจูบซับเหงื่อที่ข้างขมับให้อย่างแผ่วเบา ก่อนจะแทรกนิ้วที่สามตามเข้าไป


“พ..พอ..ม..ไม่เอา”


นิ้วทั้งสามที่แทรกในกายค่อยขยับเข้าออกเพื่อเตรียมความพร้อมไว้ ในขณะที่สะโพกมนเริ่มจะยกตามจังหวะที่เข้าออกในร่างกาย จุนมยอนเหลือบมองทุกคนที่หลับอยู่อย่างระแวงว่าจะตื่นขึ้นมาเห็นอะไรที่ไม่ควรในจังหวะเดียวกันกับที่ถูกชานยอลรั้งให้ไปในซ้อนอยู่กับตัก เสียงมือหนาที่เร่งรีบกับการปลดเข็มขัดและกำลังพยายามรูดซิปกางเกงของตนเองลง ทำให้จุนมยอนหันกลับไปมอง ก่อนจะต้องรับผินหน้าหลบเมื่ออีกฝ่ายควักสิ่งที่กำลังแสดงความต้องการอยากจะโจนจ้วงเข้ามาในร่างเขาออกมา


“ถ้าไม่อยากให้คนอื่นตื่นมาเห็น..ก็อย่าครางเสียงดังนะที่รัก”


เสียงกระซิบข้างหูทำให้จุนมยอนกระทุ้งข้อศอกลงไปเต็มแรง สะโพกอิ่มถูกประคองยกสูงขึ้น จุนมยอนหันกลับมามองทางด้านหลังช้าๆ แท่งเนื้อร้อนที่กำลังถูไถกับปากช่องทางทำให้เขาจิกมือลงกับต้นขาของชานยอลเต็มแรง แล้วเฝ้ามองบั้นทายกล้มกลึงที่ค่อยๆถูกกดลงให้ดูดกลืนความเป็นชายของอีกฝ่ายไปทีละนิดๆ


“เคร้ง!


เสียงขวดเหล้าที่กระทบพื้นทำให้คนที่กำลังทำกิจกรรมร้อนแรงร่วมกันหันไปมองเป็นสายตาเดียว ชายคนหนึ่งที่ลุกขึ้นนั่งพร้อมกับกวาดสายตามองรอบตัว ทำให้ทั้งจุนมยอนและชานยอลนั่งตัวแข็งทำอะไรไม่ถูก


“เอามาอีกขวดดิ”


เสียงทุ้มพร้อมกับทำไม้ทำมือทำให้จุนมยอนพยายามจะลุกจากตักกว้าง แต่กลับถูกมือหนาที่ประคองสะโพกอยู่กดค้างเอาไว้ไม่ให้ขยับ เรียวปากเล็กอ้าค้างเมื่อจู่ๆชายคนนั้นก็ฟุบร่วงลงไปกองกับพื้นอีกครั้ง ทำให้รู้ได้ว่าที่อีกคนตื่นมาโวยวายเมื่อครู่นี้ก็แค่ละเมอ แต่มันเล่นทำเอาใจของเขาร่วงไปอยู่ตาตุ่ม ลองคิดดูสิถ้าหากตะกี้หมอนั่นไม่ได้แค่ละเมอแล้วตื่นขึ้นมาเห็นจริงๆ จุนมยอนยังไม่รู้เลยว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน


“เฮ้อ”


เสียงพรูลมหายใจของคนสองคนดังประสานกัน ก่อนที่จุนมยอนจะสะดุ้งอีกครั้งเมื่อคนด้านหลังดันเข้ามาจนสุดความยาว เสื้อผ้าที่ยังอยู่ติดกายครบทุกชิ้นมีเพียงแค่กางเกงเท่านั้นที่ถูกปลดให้หลุดออกจากสะโพกมากองที่หัวเข่า ทำให้จุนมยอนเบาใจไปบ้างเล็กน้อย แต่การที่มาทำในที่แบบนี้ยังไงมันก็น่าอายเกินไปอยู่ดี


สะโพกมนพยายามเด้งรับกับสิ่งที่แทรกเข้ามา ก่อนจะกลายเป็นคนคุมจังหวะเสียเอง ซึ่งชานยอลก็ไม่ได้ว่าอะไรปล่อยให้เลยตามเลยไป เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังไปทั้งห้องมันยังไม่น่ากระดากอายเท่ากับมีคนอีกนับสิบชีวิตนอนเรียงรายอาศัยพื้นที่หายใจร่วมกัน จุนมยอนเร่งจังหวะให้ถี่รัวขึ้น จนกระทั่งความอุ่นร้อนที่ฉีดพุ่งเข้ามาในร่างกายทำให้คนตัวเล็กดีดตัวลุกขึ้นยืน แม้จะรู้สึกโหวงๆที่ส่วนนั้นถูกถอนออกไปอย่างรวดเร็ว แต่การอยากจะรีบออกจากห้องนี้ไปโดยไว จึงรีบดึงกางเกงใส่อย่างลวกแล้วรั้งแขนชานยอลให้รีบกลับห้องไปด้วยกัน


“ปึง”


เพียงแค่พาตัวเองพ้นออกมาจากห้องนั้นได้จุนมยอนก็รู้สึกว่าหายใจโล่งขึ้นแล้ว แต่ความรู้สึกร้อนวูบวาบและครั่นเนื้อครั่นตัวแปลกๆทำให้ต้องส่งมือไปค้ำกับกำแพงเอาไว้ พยายามก้าวเดินไปได้อีกสองสามก้าวก็เกิดอาการเข่าอ่อนจนชานยอลต้องตามเข้ามาคว้าเอวไว้ 


“ช..ชานยอล..ร้อน...”


เจ้าของชื่อใช้ปลายแขนเสื้อซับเหงื่อที่ใบหน้าให้ก่อนจะก้มลงกดจูบกับปากแดงย้ำๆ รอยยิ้มที่แต่งแต้มบนใบหน้าหล่อไม่ทันให้จุนมยอนที่มัวแต่สับสนและมึนงงกับร่างกายที่แปรปรวนของตัวเองไม่ทันได้เห็น ชานยอลกดปลายจมูกลงกับซอกคอแล้วสูดดมกลิ่นสบู่ที่จุนมยอนชอบใช้อย่างมัวเมา พลางคิดไปถึงตัวยาบางอย่างที่เขาหย่อนใส่แก้วน้ำเปล่าแล้วให้จุนมยอนกินเข้าไปก่อนหน้านี้


มันคงกำลังจะออกฤทธิ์แล้วสินะ..





“ร้อน...ช..ชานยอลอ่า...”


ช่วงขายาวพยายามก้าวให้ไวที่สุดเพื่อที่จะพาร่างของตนกับคนรักกลับไปต่อที่ห้อง แต่ฝ่ามือเล็กที่คอยพยายามทึ้งคอเสื้อเขาเอาไว้ทำให้มันค่อยข้างทุลักทุเลพอสมควร เพราะว่าห้องพักของเขาและจุนมยอนอยู่สูงขึ้นไปอีกหนึ่งชั้น ดังนั้นก็ต้องพากันไปที่ลิฟท์หรือไม่ก็บันได แต่ดูเหมือนว่าระยะทางอีกเกือบสามเมตรกว่าจะถึงตัวลิฟท์กับเพียงไม่ถึงเมตรก็เป็นบันไดหนีไฟ ดังนั้นทางเลือกอย่างหลังคือสิ่งที่เขาจะใช้เพื่อพาตัวเองและจุนมยอนกลับห้อง


“จุนมยอน..เดี๋ยวสิ”


โอบประคองพากันก้าวไปได้ไม่กี่ขั้น คนตัวเล็กก็เริ่มแผลงฤทธิ์ ฝ่ามือเล็กเอาแต่รั้งคอเสื้อคนตัวสูงกว่าเอาไว้เพื่อที่จะจูบ แต่เมื่อทำแล้วไม่เป็นผลก็เลยเอื้อมมือมาปลดกระดุมเสื้อของอีกฝ่ายแทน แม้จะพยายามห้ามปรามและรั้งมือเอาไว้แต่จุนมยอนก็ยังดื้อดึงจนปลดกระดุมเสื้อเขาออกหมดได้ในที่สุด


“กอดฉันหน่อย..”


น้ำเสียงอ้อนๆพร้อมกับริมฝีปากบางกดจูบแล้วดูดดึงกับยอดอกเขาจนเกิดเสียงดังจ๊วบ นั่นพาเอาความอดทนของปาร์คชานยอลหมดลงไป มือหนาสอดผ่านชายเสื้อตัวบางของจุนมยอนแล้วลูบวนหน้าท้องและแผ่นหลัง พร้อมกับซุกใบหน้าลงไปแนบกับซอกคอ แล้วขบกัดลงไปจนร่างบางสะท้าน


“ร้อน..”


มือหนาเร่งปลดตะขอกางเกงคนตัวเล็กลงอีกครั้งแล้วรูดให้มันลงไปกองที่ข้อเท้า ความต้องการที่มากขึ้นทำให้เขาไม่ประวิงเวลามามัวค่อยปลดกระดุมทีละเม็ด จึงกระชากเสื้อบนร่างบางที่เดียวให้มันขาดออก แล้วลากลิ้นไปสัมผัสและชิมความหอมหวานอย่างหื่นกระหาย


ความต้องการที่ถูกปลุกขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งเกิดขึ้นอีกครั้ง มือหนาปลดกางเกงตนเอง โดยปล่อยให้มันคาอยู่ที่สะโพก ก่อนดันกายแทรกเข้าไปในร่างขาวอีกครั้ง มือหนาผลักให้คนตัวเล็กไปชิดกับราวบันไดก่อนจะกระแทกกายเข้าใส่จนฝ่ามือเล็กต้องรีบหาที่เกาะยึด ชานยอลดูดติ่งหูและขบกัดที่ท้ายทอยขาวแรงๆ พร้อมกับที่ส่งมือไปสะกิดยอดอกคนที่ใช้มือเกาะราวบันไดเพื่อทรงตัวยืน


“จุน..ม..ยอน..”


เสียงแหบพร่ากระซิบชิดใบหูนิ่ม พร้อมกับส่งจังหวะเข้าไปในร่างจุนมยอนจนสั่นคลอนไปทั้งร่าง มือหนาไล้จากยอดอกลงมาตรงหน้าท้องเนียนก่อนจะมาหยุดที่ต้นขาขาวๆ พร้อมกับจับยกเรียวขาข้างหนึ่งให้พาดไปกับราวเหล็กที่อยู่สูงกว่าขั้นที่ตนยืนอยู่หนึ่งขึ้นซึ่งมันทำให้เขาแทรกเข้าไปในร่างจุนมยอนได้ลึกมากยิ่งขึ้น


“อ๊า!!


คนที่ยืนอยู่ด้านหลังเอื้อมมือมารูดแก่นกายเล็กในขณะที่ก็ยังกระแทกและส่งแรงเข้าหาแบบถี่รัว เสียงครางระงมดังกลบเสียงของราวบันไดที่มันสั่นเพราะจุนมยอนใช้มันเป็นหลักยึดยามที่แท่งเนื้อร้อนด้านหลังดันเข้ามาจนสุด กิจกรรมเข้าจังหวะดำเนินต่อไปจนกระทั่งสุขสมด้วยกันทั้งคู่ ชานยอลก็ประคองร่างที่หอบหายใจถี่ให้เดินขึ้นไปเพื่อตรงกลับห้อง โดยไม่คิดจะแต่งตัวให้เรียบร้อย 


“ชานยอล..เข้ามา..ในตัวฉันที..”


คนตัวสูงพรูลมหายใจเมื่อก้าวพ้นออกมาจากบันไดได้ในที่สุด แต่ฝ่ามือเล็กที่ลูบไล้กับแผงอกทำให้เขาดันคนตัวเล็กให้หันหน้าเข้ากับกำแพงแล้วใช้มือรูดสองสามทีพร้อมกับกดส่วนนั้นจมเข้าไปแช่ไว้ในร่างของอีกคนตามคำขอ อ้อมแขนแข็งแรงรั้งเอวบางพยายามจะพาเดินต่อไปแต่สิ่งที่แช่อยู่ในร่างของจุนมยอนกลับเป็นปัญหา และถ้าหากยืนอยู่ตรงนี้นานคนก็อาจจะมาเห็นได้ แม้มันจะปาเข้าไปตีสองแล้วก็ตามแต่


“มานี่”


ชานยอลถอนส่วนนั้นออกไปก่อนจะช้อนอุ้มร่างที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยเอาไว้แล้วรีบก้าวยาวๆจนกระทั่งพามาถึงห้องได้ในที่สุด ทันทีที่แตะคีย์การ์ดและเปิดประตูเข้าไปได้ เสื้อผ้าที่อยู่ติดกายอย่างหมิ่นเหม่ก็ถูกสลัดทิ้งกองไว้ตรงหน้าประตู ช่วงขายาวเตะประตูให้ปิดไป ก่อนจะวางร่างขาวลงแล้วแทรกกายเข้าไปทันทีโดยไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายร้องขอ


“อ๊ะ..อ๊า..”


ใบหน้าหวานแนบไปกับผนังห้อง พร้อมกับแรงกระแทกเข้ามาทำให้ส่วนที่ดันตัวขึ้นมาเพราะฤทธิ์ยาเสียดสีไปกับผนัง เหงื่อมากมายที่ไหลโทรมกายไม่ได้ทำให้ชานยอลยอมปล่อยแขนออกจากร่างนี้เลย ซ้ำยังกอดแน่นแล้วส่งมือไปช่วยปลดเปลื้องอารมณ์ของคนตัวเล็กต่อจนกระทั่งปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง


“ฉัน..เป็นอะไรไม่รู้...มันยังต้องการ..”


จุนมยอนละฝ่ามือที่เท้ากับผนังห้องค่อยๆเลื่อนมือลงมากอบกุมแท่งเนื้อร้อนที่มันเต้นตุบๆรอการปลดปล่อยของตนเอง แต่ก็ถูกคนที่ยืนซ้อนอยู่ดานหลังป่ายมือให้หลุดออกไป พร้อมกับลากเอาร่างบอบบางที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยร่องรอยจากการทำรักให้เดินเข้ามา แต่คนที่พยายามรั้งตัวเอาไว้อย่างจุนมยอนกลับไม่ให้ความช่วยเหลือ ฝ่ามือเล็กเอื้อมลงไปกอมกุมแก่นกายของตนเองอีกครั้ง แล้วพยายามช่วยตัวเองต่อหน้าต่อตาคนรัก


“ปัดโถ่เว้ย!


ชานยอลขยี้หัวตัวเองแรงๆอย่างหงุดหงิด แล้วปัดมือเล็กๆนั้นออกไป พร้อมกับทรุดตัวลงแล้วส่งแท่งเนื้อนั้นเข้าไปไว้ในโพรงปากตน มือหนากดบั้นท้ายให้เข้ามาแนบชิดก่อนจะยกมือเกี่ยวเรียวขาข้างหนึ่งของคนตัวเล็กพาดไว้บนหัวหัวไหล่ 


“อะ..อ๊ะ..”


ฝ่ามือเล็กดึงทึ้งเส้นผมเขาจนเจ็บไปทั้งหนังหัว พร้อมกับสะโพกอิ่มเด้งรับมันทำให้ปาร์คชานยอลอยากจะยกกล้องขึ้นมาอัดภาพคนตัวเล็กที่สุดแสนจะเซ็กซี่เอาไว้เสียตอนนี้หากทำได้ ใบหน้าหวานที่เขาหลงใหล กำลังเคลิบเคลิ้มไปกับรสสวาท ริมฝีปากบางเผยอออกเล็กน้อย ดวงตาที่ฉ่ำน้ำก้มลงมามองด้วยสายตาอ้อนๆ นั่นทำเอาปาร์คชานยอลทนไม่ไหวลุกขึ้นแล้วจับขาข้างที่อยู่บนหัวไหล่มาพาดไว้กับเอว ก่อนจะสอดความเป็นชายเข้าไปภายในร่างที่ยังไม่ได้ปลดปล่อย


“ช..ชานยอล..อ๊า”


มือหนายกขึ้นมาจับเรียวขาอีกข้างที่จุนมยอนใช้ทรงตัวยืนให้ยกขึ้นมาเกี่ยวเอวตนเองไว้ ก่อนจะช้อนสะโพกอุ้มคนตัวเล็กขึ้น เมื่ออยู่ในท่านี้น้ำหนักตัวทั้งหมดของจุนมยอนถูกทิ้งลงไป ส่งผลให้สิ่งที่ค้างแช่อยู่ในร่างกดลงจนวูบโหวงไปทั่วท้องน้อย ช่วงขายาวเซไปข้างหลักเล็กน้อย ก่อนชานยอลจะขยับไปอิงหลังไว้กับบานกระจกใหญ่ใกล้ๆโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วสวนสะโพกเข้าใส่แบบไม่ยั้ง


“ฮึก”


ฝ่ามือเล็กข้างหนึ่งส่งไปค้ำยันกับผนังเหนือหัวคนตัวสูง และอีกข้างเลื่อนลงมากอบกุมส่วนกลางกายของตนเองแล้วรูดเร้ามันด้วยจังหวะที่กระชั้น จุนมยอนปรือตามองหน้าชานยอลช้าๆแล้วโน้มใบหน้าลงไปบดเบียดริมฝีปากด้วย ริมฝีปากที่เผยอเพื่อช่วยหายใจถูกดูดดึง แล้วสัมผัสกับความร้อนชื้นของลิ้นที่ชานยอลส่งเข้ามาสัมผัส 


“ส่งลิ้นมา”


ร่างกายที่กระตุกเกร็งเพราะความฉ่ำเยิ้มที่ปลดปล่อยออกมาจนเลอะมือ จ้องประสานกับคนที่ยังคงเด้งสะโพกกดลึกโจนจ้วงเข้ามากาย แล้วยอมส่งลิ้นเข้าไปแตะกับของอีกคนที่เป็นคนออกคำสั่ง  แล้วต้องร้องออกมาสุดเสียงเมื่อชานยอลยกสะโพกเขาขึ้นสูงพร้อมกับถอนส่วนนั้นออกไป แล้วกระแทกเข้าไปทีเดียวจนร่างขาวสั่นคลอนไปทั้งร่าง


“อ๊า!!!


ความอุ่นร้อนที่ฉีดเข้ามาอีกระลอกทำให้คนที่ถูกอุ้มอยู่ผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ แต่ฤทธิ์ยาที่ยังคงส่งผลอยู่ทำให้ความต้องการของจุนมยอนเกิดขึ้นอีกครั้ง ชานยอลเอื้อมมือซับเหงื่อบนใบหน้าหวานแล้วจูบซับไปทั้วทั้งใบหน้า ก่อนจะอุ้มพาร่างที่ยังคงต้องการให้เขาเติมเต็มไปยังเตียงหลังกว้าง


“..จ..จุน..อึก..จุนมยอน”


เมื่อวางคนตัวขาวลงบนเตียงแล้วเพียงแค่ก้าวตามขึ้นเตียงไปร่างนุ่มนิ่มก็โถมเข้าใส่ตัวเขา เรียวแขนเล็กขยับมาโอบคอไว้ แล้วบดจูบลงกับซอกคอ จนชานยอลทำได้แค่ส่งมือไปลูบคลึงบั้นท้ายกลมกลึงเล่นอย่างมันมือ 


“ช..ชานยอล...ช่วย..ฉันที”


เสียงหวานที่ครางอยู่ข้างหูทำให้เจ้าของชื่อต้องตั้งสติแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ยามที่ถูกริมฝีปากแดงๆขบเม้มที่ติ่งหู คนตัวเล็กขยับตัวเข้ามาคร่อมแล้วดันสะโพกถูไถส่วนที่ตั้งชันขึ้นให้มาถูกับหน้าท้องเขา แรงขบกัดที่ใบหูทำให้ชานยอลตีมือลงกับบ้านทายกลมนั้นนด้วยความหมั่นเขี้ยว ก่อนจะดันร่างของลูกแมวขี้อ้อนให้ลงไปคุกเข่าสี่ขากับพื้นเตียง


“ฮึก!!


มือที่ค้ำอยู่กับเตียงสั่นเกินจะควบคุมเมื่อ คนที่ซ้อนอยู่ด้านหลังเสือกกายเข้าหา จังหวะเนิบนาบที่เริ่มขึ้นพร้อมกับความร้อนจากริมฝีปากที่พรมจูบไปทั่วแผ่นหลัง ทำให้จุนมยอนต้องกัดฟันทนแล้วซุกหน้าลงไปกับท่อนแขนของตนเอง เสียงเตียงที่ดังกระทบกับผนังห้องไม่ได้ทำให้คนสองคนสนใจมันแม้แต่นิด ฝ่ามือใหญ่ที่ประคองสะโพกอยู่ละมือออกมาหนึ่งข้าง แล้วรูดแก่นกายของคนตัวเล็กให้ปลดปล่อยไปด้วยกัน


ยิ่งเหงื่อเริ่มซึมออกมา คนที่ไฟติดก็กดสะโพกเร็วขึ้น จนร่างขาวเข่าแทบทรุดลงไป แต่เพราะอ้อมแขนที่ยังกอดรั้งเอวไว้ ทำให้ยังคงประคองตัวอยู่ได้ ฝ่ามือเล็กจิกลงกับหมอนและผ้าปู พร้อมกับกรีดร้องออกมาสุดเสียงเมื่อห้วงอารมณ์ถูกปลดเปลื้องออกไปอีกครั้งและอีกครั้ง


“แฮ่กแฮ่กแฮ่ก”


จุนมยอนถูกดันให้นอนหงายลงแล้วตามมาด้วยมือหนาที่บีบเค้นไปจนทั่วทั้งตัว คนที่เหนื่อยหอบจนตัวโยนเพียงแค่นอนบิดกายแล้วใช้แววตาที่คลอไปด้วยน้ำใสๆ มองทุกอากัปกริยาของคนบนร่าง เรียวขาทั้งสองข้างถูกดันให้แยกออกกว้างพร้อมกับความแข็งและใหญ่โตกดเข้ามาอีกครั้ง 


“ช..ชา..ชาน..ยอ..อึก!


ทั้งมือและริมฝีปากที่สัมผัสไปทั้งตัว ทำให้จุนมยอนเหมือนกำลังถูกดึงวิญญาณออกไป ความมึนเมาและความเสียวซ่านที่บอกไม่ถูกว่าเกิดจากจุดไหนกันแน่ ทำได้เพียงแค่ครางร้องเรียกชื่อของคนที่ย้ำกายเข้าหาอยู่แบบนั้น ก่อนจะถูกช้อนตัวขึ้นนั่งคร่อมบนตักอีกครั้ง ฝ่ามือเล็กส่งไปประคองใบหน้าหล่อ แล้วลูบเบาๆด้วยความหลงใหล ในขณะที่สะโพกก็กดรับกับแท่งเนื้อร้อนอย่างต่อเนื่อง 


ไฟรักที่ไม่มอดดับลงง่ายๆ ถูกจุดขึ้นมาอีกครั้งและอีกครั้งจนมันดำเนินไปร่วมสองชั่วโมง ร่างบอบบางที่เหนื่อยอ่อนจนแทบหมดแรงยังคงเกิดความต้องการอยู่เพราะฤทธิ์ยาบ้าๆนั้น ทำให้ยังต้องคอยรับส่งสอดผสานสัมผัสกันต่อไป โดยไม่รู้ว่ามันจะหยุดลงเมื่อไหร่


“ฉัน..จ..จะไม่ไหวแล้ว..อ๊ะ..อ๊า”


คนที่ถึกและไม่รู้ว่าไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนทั้งๆที่ไม่ได้โดนฤทธิ์ยาเล่นงานด้วยซ้ำอย่างชานยอลยังคงตักตวงเอากำไรจากเรือนร่างหอมหวานนี้ ร่างสูงที่นอนเอนราบอยู่กับเตียงยังคงยกสะโพกดันส่วนนั้นกดเข้าและออกกับร่างขาวที่นอนบิดเร่าอยู่บนร่างของตนเอง 


“นี่ถ้าฉันกินยานั้นเข้าไปด้วยนายตายคาอกฉันแน่ๆ”


ถ้อยคำดังกล่าวของปาร์คชานยอลไม่เข้าหูอีกคนเลยแม้แต่นิด จุนมยอนเหนื่อยจนแทบขาดใจ แต่ความต้องการลึกๆมันทำให้เขาต้องทำมันต่อไปเพื่อทุเลาความทรมานและอึดอัดเหล่านี้ ใบหน้าหวานหันหลับไปมองคนที่ตนนอนซ้อนอยู่อย่างตื่นตระหนกเมื่อจู่ๆชานยอลก็ชันตัวขึ้นแล้วเกี่ยวเรียวขาเล็กให้พาดไปกับสะโพกของตน  จุนมยอนถดขาอีกข้างใช้เข่าคำยันกับพื้นเตียง แล้วหวีดร้องออกมาเมื่อแท่งเนื้อร้อนกระแทกสวนแรงๆ 


“อ๊ะ..จ..เจ็บ”


ฝ่ามือเล็กค้ำยันกับพื้นเตียงตรงระหว่างลำตัวของคนที่ซ้อนอยู่ใต้ร่าง เข่าเล็กๆค้ำยันเพื่อให้สะโพกลอยค้างเอาไว้ในยามที่อีกคนดันกายส่งเข้าหา ขาข้างที่ถูกแยกออกและนำไปพาดกับเอวคนตัวสูงทำให้เขารู้สึกชาและเสียวซ่านปนความทรมาน ได้แต่ภาวนาให้อีกคนปลดปล่อยออกมาเสียที 


“อึก..อึก..อึก...”


ชานยอลไม่ออมแรงที่ส่งกายเข้าหาจนในที่สุดก็ปลดปล่อยอีกครั้ง หยาดน้ำขุ่นขาวไหลซึมจากช่องทางนั้นออกมาจนชโลมส่วนนั้นของชานยอลเอาไว้ มือหนาดันเรียวขาเล็กลงให้อีกฝ่ายนอนลงบนตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะพลิกกายตะแคงตัวกอดคนที่หอบหายใจจนตัวโยนเอาไว้จมอก


“จุนมยอน..ฉัน..มันก็เป็นคนแบบนี้แหละนะ..ขอโทษ..”


เจ้าของชื่อปรือตาขึ้นมองหน้าคนที่กดจูบลงที่หน้าผากตนเองก่อนจะพยักหน้ารับ เรียวขาขาวเนียนค่อยๆยกขึ้นก่ายเอวสอบเมื่อชานยอลค่อยๆแทรกกายเข้ามาตรงหว่างขาอีกครั้งอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะเสร็จไปแล้วนับครั้งไม่ถ้วนทำให้สามารถสอดเข้าไปได้ง่ายขึ้น สะโพกหนากดส่งเข้าหา โดยที่ร่างบางก็ยังคงอ้าขารับกับจังหวะนั้นโดยที่ท่อนแขนของคนทั้งสองยังโอบกอดกันกลม


“ม.ไม่ต้อง..ขอโทษหรอก..”


 สองร่างที่กอดก่ายกันบนเตียงพลิกกลิ้งไปมาในขณะที่ช่องทางเบื้องล่างยังผละออกห่างจากกันแม้แต่วินาทีเดียว จนกระทั่งเวลาที่แสนยาวนานผ่านไป จุนยมอนโอบกอดคนตัวสูงเอาไว้แน่นแล้วอาศัยจังหวะที่ริมฝีปากผละออกจากกันสูดหายใจเข้าปอด ตอนนี้เขาเหนื่อยจนแทบจะสลบลงไปทั้งที่ยังไม่ได้ปลดปล่อยด้วยซ้ำ 


“ฉันเต็มใจ..ให้..นาย..ปาร์คชานยอล..”


ดวงตาคู่สวยหลับพริ้มลง ในขณะที่อีกคนก็ยังไม่ผละส่วนนั้นออกไป  ใบหน้าสวยซุกลงกับอกโดยที่อ้อมแขนก็ยังคงโอบกระชับกอดเอวเขาไว้ อีกทั้งสะโพกอิ่มก็ยังคงกดรับกับตัวตนของปาร์คชานยอล ราวกับเป็นกลไกของร่างกายที่ผสานเข้าหากันอย่างลงตัว




ค่ำคืนสุดท้ายในญี่ปุ่นที่ผ่านพ้นไป..

 
พร้อมกับร่างกายที่แนบชิดกันจนชนิดที่ว่าไรฝุ่นก็ยังไม่สามารถแทรกตรงกลางระหว่างเราได้..









อ่านแล้วช่วยกลับไปเม้นที่เด็กดีดด้วยนะคะ >.,<  >>Dek-d<<

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น