หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2557

[SF] Kris x Suho - Retribution





“คริส..เบาๆสิ”  บ่นออกมาไม่จริงจังนัก เมื่อถูกคนที่คร่อมอยู่บนร่างรีบร้อนจะปลดเสื้อผ้าเขาออกเสียเหลือเกิน
“บอกให้เบาๆไง”  ร้องบอกอีกครั้งเมื่อเสื้อเชิ้ตถูกรั้งออกจากแขนแรงๆ  จนเสื้อตัวเก่งของเขาแทบจะขาดออกอยู่รอมร่อแล้ว จุนมยอนพยายามขยับดันตัวขึ้นแต่ใบหน้าหล่อที่ซุกอยู่กับอก ซ้ำยังกดจูบย้ำและลงแรงที่จุดไวสัมผัสกำลังทำให้เขาหลุดเสียงครางอันน่าอับอายออกมา
“คริส..เดี๋ยว..ฮึก!” จุนมยอนไม่รู้ว่าเพราะไอ้คำถามก่อนหน้านี้หรือเปล่า ที่ทำให้คริสเป็นแบบนี้ รู้แค่ว่าคริสเลือกที่จะบ่ายเบี่ยงไม่คุยเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ของตนกับคยองซูอีก
“นี่คริส..”  จุนมยอนดันตัวลุกขึ้นจากโซฟาอย่างทุลักทุเลโดยมีร่างสูงที่ขยับลุกออกไปปลดเปลื้องเสื้อผ้าอยู่ไม่ห่าง
จุนมยอนประคองตัวเองลุกขึ้นนั่งโดยใช้มือเล็กๆเกาะยึดพนักพิงโซฟาเอาไว้ได้ไม่ทันไร ร่างกายที่ถูกกระชากเสื้อผ้าทิ้งไปจนหมดก็ถูกโถมเข้าใส่อีกครั้ง
“ผมชอบจุนมยอนนะ”  นั่นเป็นคำแรกหลังจากที่คริสจอมบ้าพลังกระโจนเข้าใส่เขาแบบไม่ออมแรง
จุนมยอนใช้เข่าเล็กๆของตัวเองชันกับเบาะที่นั่งของโซฟา มือทั้งสองข้างก็ค้ำยันกับพนักพิง เบื้องหน้าของร่างกายที่เปลือยเปล่าหันเข้ากับโซฟาสีแดงเพลิงโดยมีนายแบบหนุ่มรูปร่างสมส่วนนั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง
มือไม้ที่จุนมยอนคิดว่ามันใหญ่กว่ามือของเขาเกือบเท่าตัวบีบเค้นและสัมผัสไปทั่วร่างจนเข่าเล็กๆที่ค้ำยันตัวเอาไว้มันสั่นคลอน ผิวเนียนทั้งแผ่นหลังที่อยู่ตรงหน้าถูกคริสไล่จูบไปทั่ว ก่อนจะขยับเข้ามาเติมเต็มจุนมยอนเอาไว้
จากที่ก่อนหน้านั้นว่าไม่มีแรงแล้ว จุนมยอนคิดว่าวินาทีที่คริสกำลังดันตัวเข้ามาจนร่างกายด้านหน้าเขาชนกระแทกกับพนักพิงโซฟามันยิ่งเหมือนดูดเอาพลังของเขาไปจนหมดร่าง
“คริส..บ..เบา”  จนใจที่จะร้องห้าม เมื่อลำแขนยาวสอดผ่านเอวบางเข้ามาค้ำยันกับพนักพิงโซฟาเช่นกัน
 แขนของคริสมันขนานไปกับแขนของจุนมยอนที่เกาะยึดอยู่ก่อน ช่วงขายาวนั่นก็อีกที่วางขนาบเรียวขาเล็กๆอันสั่นเทาของจุนมยอนเอาไว้ หากแต่พละกำลังและเรี่ยวแรงที่มีมันช่างต่างกันเหลือเกิน..
“จุนมยอนของผม..”  จุนมยอนก้มมองมือหนาของคริสที่ค้ำยันกับพนักโซฟาเป็นเหมือนแรงส่งอย่างดี ร่างกายที่ถูกผสานจนเป็นหนึ่งเดียวขยับไปพร้อมกัน เสียงครางเรียกชื่อกันและกันเหมือนเชื้อเพลิงชั้นดีที่ทำให้คริสเร่งเครื่องใส่ไม่ยั้ง
“อ๊ะ”  จุนมยอนสะดุ้งสุดตัวเมื่อถูกกัดเข้าที่หัวไหล่แถมคนที่กัดก็ยังคงไม่ผละออกไปไหน ความเมื่อยล้าที่เริ่มเกาะกินไปทั้งขาทำให้จุนมยอนซุกใบหน้าลงกับขอบพนักพิงของโซฟา แต่ท้ายทอยที่ถูกดอมดมและถูกกดจูบจนขนชันทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง
“คริส..” นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายของจุนมยอนหลังจากที่เอี้ยวตัวกลับมามองหน้าคนที่หลงใหลในร่างกายของเขาชนิดที่เรียกว่าโงหัวไม่ขึ้น เพราะหลังจากนั้นปากแดงๆก็ถูกบดจูบครั้งแล้วครั้งเล่าจนบวมช้ำ ไม่ต่างจากร่างกายที่ทำงาน    อย่างหนัก
เกือบชั่วโมงที่คริสไม่ยอมขยับห่างตัวเขาไปไหน ตั้งแต่ที่โซฟาจนถึงตอนนี้ที่เขานอนหมดแรงอยู่บนตัวของคริส แม้จะไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้นหรือผ้าห่มสักผืนมาปกปิดร่างกายในตอนนี้ แต่มันก็เกินช่วงที่เขาจะต้องมัวมาอายไปไกลแล้วล่ะ
จุนมยอนขยับตัวไปมาสองสามทีเพื่อหามุมสบายแต่มันไม่มีทางจะสบายได้หรอกเขารู้ดี เพราะตราบใดที่คริสยังคงไม่ขยับออกไปจากตัวเขา มันก็คงอึดอัดอยู่แบบนี้ แต่เขาก็ไม่อยากจะบาปปลุกคนหลับให้ต้องตื่นมาเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง
อีกอย่างคริสจะยังตื่นขึ้นมาในตอนนี้ไม่ได้..ตอนที่คิมจุนมยอนกำลังส่งรูปช่วงเวลาความสุขระหว่างเราสองคนไปให้กับเพื่อนรัก


 RrrrrrRrrrrrrrr
“ใคร?”  จุนมยอนนึกหงุดหงิดที่เขายังหลับไปได้ไม่ถึงชั่วโมงดีเสียงโทรศัพท์ของคริสก็ปลุกเขาขึ้นมา หนำซ้ำพอวางหูคริสก็แทบจะผลักเขาออกแล้วกุลีกุจอวิ่งไปคว้าเอาเสื้อผ้ามาสวมใส่อย่างรีบร้อน
“ผมต้องรีบไปหาคยองซู”  เพียงแค่ได้ยินชื่อของคนปลายสายที่โทรมาจุนมยอนก็นึกสะใจอยู่ไม่น้อย แต่ที่รู้สึกไม่พอใจคือคริสรีบร้อนที่จะไปหาคยองซูแทนที่จะอยู่กับเขา
“แล้วฉันล่ะ?..ไม่ไปไม่ได้หรอ?”  จงใจใช้น้ำเสียงออดอ้อนอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน แต่สุดท้ายก็ได้แต่หัวฟัดหัวเหวี่ยงอารมณ์เสียอยู่คนเดียว
 เมื่อคริสเลือกที่จะไป..
                จุนมยอนรู้สึกเหมือนกับว่าคยองซูกำลังทำสงครามประสาทกับเขา  เพื่อนตาโตไม่เคยที่จะโทรมาขัดในเวลาที่เขากับคริสกำลังมีอะไรกัน แต่หลังจากที่เขาส่งรูปภาพพวกนั้นไปได้สักพัก คยองซูก็จะโทรมาตามคริสกลับไป
มันเป็นแบบนี้นับครั้งไม่ถ้วน


“ไม่คิดจะหึงหวงคนรักหน่อยหรือไง?”
  และนี่ก็เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่เขาได้เจอคยองซูอีกครั้ง แม้หลายๆครั้งควรจะได้เจอ แต่ก็ชวดไปเสียทุกครั้งเพราะคริสเทียวลากให้เขาไปหลบไปซ่อนอยู่ตลอดเวลา
“ไม่เห็นต้องทำแบบนั้นเลยจุนมยอน..ถ้าคิดว่าแย่งได้ก็เอาไปสิ”  น้ำเสียงไม่ยี่หระกำลังทำให้จุนมยอนอยากจะกระชากหัวคนพูดมาจับโขกกับกำแพงไปซะ
“จองหอง!  ต่อให้จุนมยอนจะด่าทอเขาด้วยคำพูดที่หยาบคายกว่านั้น คยองซูคนนี้ก็ไม่รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจอะไรอีกต่อไปแล้ว
“แต่นายอาจไม่ต้องลำบากแล้วล่ะ เพราะฉันไม่ต้องการคริสแล้ว ยินดีกับฉันหน่อยสิเพื่อนรัก..ในโอกาสที่ฉันคบกับชานยอล”  
เรื่องราวที่ได้ยินมันน่าจะเป็นเรื่องโกหกที่คยองซูเอามาขู่เพื่อต้องการชนะ แต่การที่ปาร์คชานยอลอดีตคนรักของเขาเดินเข้ามาจับจูงมือของคยองซูและเดินจากไปโดยทำเพียงแค่ชายตามาทางเขาด้วยหางตา อากัปกริยาเหล่านั้นมันกำลังทำให้คิมจุนมยอนอยากจะกรีดร้องออกมาหากทำได้

เพียงแค่ข่าวคนเบื้องหลังความสำเร็จของคริสอย่างโดคยองซูที่กำลังมีความรักครั้งใหม่กับปาร์คชานยอลถูกตีพิมพ์ลงหน้าหนังสือหรือสื่อออนไลน์ทุกชนิด

มันก็เป็นไปพร้อมกับข่าวของนายแบบสุดฮอตที่กำลังดวงตกอย่างคริส..

จุนมยอนเข้าใจแล้วว่าที่คริสต้องยอมเพื่อนเขา เอาใจคยองซูสารพัด ก็เพราะทุกย่างก้าวในวงการ เงินทุกบาททุกสตางค์ของผู้ชายตัวสูงมันมาจากน้ำมือผู้ชายตัวเล็กๆอย่างโดคยองซูทั้งนั้น
“จุนมยอน..” 

ในเมื่อในเกมนี้คริสไม่ใช่หมากที่สำคัญอีกต่อไป จุนมยอนก็เลือกที่จะโยนทิ้งอย่างไม่ใยดี การที่เขาเดินกลับมาเอาเสื้อผ้าที่เคยทิ้งไว้ที่คอนโดของอีกฝ่ายแล้วคริสก็เอาแต่เรียกชื่อและพร่ำบอกให้เราคบกัน

 มันปัญญาอ่อนสิ้นดี!
“จุนมยอนในเมื่อฉันไม่มีข้อผูกมัดเรื่องคยองซูแล้ว เรามาคบกันนะ”  น้ำเสียงเว้าวอนพร้อมกับมือหนาที่เอื้อมมากุมมือเอาไว้ แต่จุนมยอนก็เลือกที่จะสะบัดมือนั้นทิ้งพร้อมกับรวบเสื้อผ้าราคาแพงของตัวเองที่มีลงกระเป๋าโดยไม่สนใจคำพูดเหล่านั้น
“จุนมยอน..ฉันรักนายนะ”  
รัก? พอได้ฟังแล้วมันก็ระคายหูดีจริงๆ ไอ้คำว่ารักของพวกขี้แพ้เนี่ย
“จะให้ฉันคบกับนายแล้วไปอยู่ที่ไหน? ข้างถนนเหรอ? บอกอะไรให้นะคริส คอนโดนี้คยองซูก็กำลังจะยึดคืนไปจากผู้ชายไม่รู้จักพออย่างนาย แล้วก็เลิกฝันลมๆแล้งๆว่าฉันจะเอาชีวิตไปฝากไว้กับคนไม่มีอนาคตแบบนายได้เลย” 

คำตัดรอนความสัมพันธ์ทำให้คริสได้แต่ยืนนิ่งทนดูคนตัวเล็กหอบข้าวของเดินจากไป..




จุนมยอนหันกลับมาสนใจปาร์คชานยอลอีกครั้ง แต่ดูท่าว่าครั้งนี้อีกคนดูจะไม่ยอมเล่นตามเกมเขาง่ายๆเหมือนครั้งก่อน แต่ก็นะจะหาว่าคิมจุนมยอนคนนี้โรคจิตหรืออะไรก็ได้ แต่ความสุขของเขาอย่างหนึ่งคือการได้แย่งคนของโดคยองซู

“ชานยอล วันนี้นายพอจะมีเวลาไปช่วยฉันเลือกเสื้อผ้าไปงานวันเกิดเพื่อนบ้างไหม?”  พอเห็นอดีตคนรักเดินออกมาคนเดียว โดยที่ข้างกายไม่มีตัวมารผจญความรักของเขาออกมาด้วยจุนมยอนก็ไม่รีรอที่จะรีบก้าวเข้าไปเอ่ยรั้งไว้

“ถ้าแค่ช่วยเลือกเสื้อผ้าให้ก็พอจะได้”  ชานยอลตอบรับอย่างเสียไม่ได้ เมื่อเห็นสีหน้าหงอยๆของอดีตคนรัก แม้จะเจ็บจากที่จุนมยอนฝากเอาไว้ แต่ความรักความห่วงใย ให้ตัดมันลงไปภายในเวลาไม่กี่วันก็ดูจะทำยากไม่ใช่น้อย

“นายยังดีกับฉันเหมือนเดิมเลย..”  คำพูดที่จุนมยอนจงใจพูดแทงใจดำอีกฝ่ายออกไป พยายามรื้อฟื้นเรื่องราวและความสัมพันธ์ระหว่างเรา แต่ก็ดูจะไม่เป็นผลเมื่อมือใหญ่ที่เคยวางบนหัวและลูบเบาๆเพื่อปลอบใจเขากำลังเอื้อมมาดึงรั้งมือของคิมจุนมยอนให้หลุดออกไปจากท่อนแขนตน

“จุนมยอน ฉันเต็มใจจะช่วยนายก็แค่ในฐานะเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น”  ปาร์คชานยอลย้ำขึ้นมาเสียงดัง

แต่คิมจุนมยอนคนที่ไม่มีทางยอมแพ้ก็ยังยิ้มสู้ ขยับเข้าไปคล้องแขนลงกับลำคอของอดีตคนรักของตนช้าๆ นิ้วเรียวที่วางอยู่ตรงสันคอค่อยๆบีบนวด คลึงช้าๆ ก่อนจะขยับเข้าไปแนบริมฝีปากลงที่ริมฝีปากของคนที่กำลังจะปฏิเสธกัน

“อย่า!  แรงผลักเพราะความตกใจทำให้คนถูกผลักล้มลงไปกองกับพื้น

จุนมยอนตวัดหน้าขึ้นมองคนเคยรักด้วยแววตาตัดพ้อ ปนไม่พอใจเมื่ออีกฝ่ายกล้าดีถึงขนาดมาผลักเข้าออกและทำท่าทางรังเกียจกันขนาดนี้

“ชานยอล...”

“หยุดเถอะจุนมยอน..ฉันรักคยองซูไปแล้ว”   เสียงหัวเราะขึ้นจมูกจากคนตัวเล็กที่เหมือนสมเพชเขาเต็มทน แต่ชานยอลก็ยังจะคงพูดมันออกไป

“และคิดว่าคงจะไม่กลับไปเจ็บซ้ำๆเพราะ..นายอีกแล้ว”   ดวงตาคู่สวยเบิกโตขึ้นเมื่อชานยอลหันหลังเดินกลับออกไป ทิ้งเขาเอาไว้ที่ตรงนี้

“ปาร์คชานยอล กลับมาเดี๋ยวนี้นะ!



 แม้จะผิดหวังที่วันนี้แผนการอ่อยปาร์คชานยอลไม่คืบหน้าไป แต่การที่ได้กลับมาพักที่ห้องก็คงจะทำให้เขาคิดแผนใหม่ที่จะทำให้คยองซูอกแตกตายได้ไม่ยาก อาจจะเพราะมัวแต่คิดเรื่องเหล่านั้นจุนมยอนถึงไม่ได้สังเกตประตูห้อง    ของตัวเอง..

“น..นาย.เข้ามาได้ยังไง!  ภาพของนายแบบสุดฮอตที่ตอนนี้สภาพไม่ต่างอะไรจากโจรสักเท่าไหร่ กำลังนั่งไขว่ห้างเปิดดูหนังเรทอาร์บนจอพลาสม่าภายในห้องของเขาอย่างถือวิสาสะ
“ก็มาหาเมียไง”  จุนมยอนอยากจะอ้วกให้กับคนที่ไม่หัดเจียมตัวเสียบ้าง
“ไสหัวออกไปซะ!  เงินปึกหนึ่งถูกโยนลงตรงหน้าคนที่อ้างสิทธ์ในตัวเขาก่อนที่จุนมยอนจะคว้ากระเป๋าตั้งใจจะหนีออกจากห้องไปขอพักกับเพื่อนที่อื่น
ฉึก!             
                                                                                     
ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างเมื่อเข็มฉีดยาในมือใหญ่ปักลงที่หลังมือของตนเอง ฉับพลันที่ตัวยาในหลอดไหลซึมเข้าสู่กระแสเลือด ร่างกายของเขาก็ไร้เรี่ยวแรงลงไปในทันที คำถามที่ว่าจะไปไหนเหมือนกับคำอะไรที่ลอยผ่านเข้าหูมาแต่จุนมยอนไม่มีเรี่ยวแรงจะตอบ..

ร่างกายทั้งร่างราวกับไม่ใช่ของตัวเอง แค่จะยกมือขึ้นผลักคนที่เข้ามากอดตัวเองจุนมยอนก็ยังทำไม่ได้ มือเล็กพยายามไขว่คว้าที่จะดิ้นรนหนีไปแต่กลับถูกดึงรั้งเอาไว้ ตามด้วยเสื้อผ้าที่ถูกปลดเปลื้องออกไป
“อ..อ..อย่า..”  ดวงตาคู่สวยกรอกไปมาอย่างหวาดกลัวแต่กลับร้องออกมาได้เพียงแค่นั้น แขนขาที่ไร้เรี่ยวแรงถูกคริสจับขยับให้เป็นไปตามที่ใจต้องการ
“ฮึก”  น้ำตามากมายพรั่งพรูออกมาไม่ขาดสาย

ในตอนนี้คิมจุนมยอนไม่ต่างอะไรจากคนที่ถูกขืนใจ ตัวยาบ้าๆที่คริสใช้มันคือยากล่อมประสาทชนิดหนึ่ง ซึ่งมันไม่ทำให้ถึงตาย

มันก็แค่ทำให้คิมจุนมยอนไม่สามารถจะเดินหนีจากคริสไปไหนได้ก็เท่านั้นเอง...






คยองซูนึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่หลังจากวันที่ถูกชานยอลหักหน้าไป  ก็ไม่เห็นเพื่อนของตนเองโผล่มาให้เห็นอีกเลย ในใจก็นึกเป็นห่วงเพราะถึงแม้จุนมยอนจะทำกับเขาเจ็บแสบยังไง..เราก็ยังเป็นเพื่อนกัน
แต่ไม่ว่าจะสายแล้วสายเล่าที่เขาหมั่นโทรหาแต่จุนมยอนไม่รับทำให้คยองซูถอดใจไปในที่สุด โดยไม่รู้เลยว่าคนปลายสายพยายามมากแค่ไหนที่จะตะเกียกตะกายไปหาโทรศัพท์ที่วางอยู่ไม่ไกลนั้น
“ดื้อจังเลยนะ..จุนมยอนของผมเนี่ย”  น้ำตาไหลพรั่งพรูออกมา เพียงแค่ได้ยินเสียงของใครอีกคน จุนมยอนใช้เรี่ยวแรงที่มีทั้งหมดกระถดกายหนี  แต่เพียงแค่คริสเดินมาไม่กี่ก้าวก็กระชากตัวเขากลับไปได้อีกครั้ง
“สงสัยผมต้องย้ำอีกสักที ว่าอย่าคิดจะหนีผมเด็ดขาด!” ร่างกายที่เคยขาวสะอาดเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งบาป ผลกรรมจากที่เขาได้ทำกับคยองซูเอาไว้ มันกำลังสนองคืน
จุนมยอนนึกอยากจะขอโทษเพื่อนรักกับทั้งหมดที่ทำไว้ แต่ก็ไม่มีแม้แต่โอกาส..
ทั้งที่พยายามสุดกำลังที่จะคลานหนีแต่ก็ไม่พ้นคนตัวสูงที่ตามเข้ามาฉุดลากและแทรกเข้ามาในร่าง เสียงกรีดร้องแห่งความเจ็บปวดที่ถูกกระแทกกระทั้นครั้งแล้วครั้งเล่า จุนมยอนต้องทนอยู่กับวังวนนี้ไปทุกๆวัน แม้บางครั้งคริสจะใจดี   ไม่ฉีดยาบ้านั่นให้อีกหากเขาไม่คิดจะหนี

 แต่ไม่ว่ายังไง..เรื่องการมีเซ็กส์ที่ชักจะรุนแรงขึ้นทุกวันกลับเป็นสิ่งที่คิมจุนมยอนไม่สามารถหลุดพ้นมันออกไปได้สักที..


“ผมชอบจุนมยอนมาก..รู้ไหม”


มือหนากระชับกอดแล้วกดใบหน้าที่ชุ่มน้ำตาของคนตัวเล็กซุกลงกับไหล่ ความต้องการที่เปี่ยมล้นก็ยังคงทำให้จุนมยอนสั่นคลอนไปทั้งตัว คริสจับเรียวแขนเล็กเข้ามาโอบรอบคอตนก่อนจะรวบกอดเอวบางแล้วดันตัวเข้าหาคนที่ตัวเองไม่คิดจะปล่อยให้หนีไปไหน ทุกสิ่งของคิมจุนมยอนจะต้องมีเพียงคริสคนนี้เท่านั้น..
“ป..ปล่อยฉันไป..ฮึก..”  ร่างกายที่ถูกล่วงเกินนับครั้งไม่ถ้วนมันบอบช้ำเสียจนจุนมยอนแทบจะทนไม่ไหว
“ปล่อยให้กลับไปหาไอ้ชานยอลหรือไง? ไม่มีวัน!!  แรงส่งกายที่กระแทกกระทั้นยิ่งพาให้เจ้าของร่างกายที่บอบช้ำ สะอึกสะอื้นจนตัวโยน
ริมฝีปากที่บดขยี้ลงมาบนเรือนร่าง แผ่นอกที่เต็มไปด้วยรอยช้ำ ช่องทางเบื้องล่างที่ฉีกขาดและเต็มไปด้วยคราบโสมมจากผู้ชายตัวสูงที่ไม่ยอมปล่อยเขาไป
จุนมยอนเป็นของผม 
“ฮึก..ฮือ..”  ฝ่ามือเล็กปัดป่ายสะเปะสะปะหาที่พักพิง เมื่อคนที่แทรกกายเข้ามาในร่างถอนออกไป
จุนมยอนกระถดตัวหนีก่อนจะรีบวิ่งตรงไปที่ประตูระเบียง ความหวาดกลัวทำให้ใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักประตูระเบียงปิดไว้ไม่ให้คนที่อยู่ในห้องตามออกไป แม้ร่างกายจะเปลือยเปล่าและเต็มไปด้วยร่องรอยไม่น่ามอง แต่วินาทีการได้หลุดพ้นจากไอ้บ้า ไอ้โรคจิตอย่างคริสได้ คือสิ่งเดียวที่จุนมยอนเฝ้าภาวนา
“ช่วยด้วยครับ..ฮือ..ได้ยินไหม ใครก็ได้ช่วยผมด้วย”   เสียงร้องขอความช่วยเหลือ หวังเพียงห้องด้านข้างจะได้ยินมันบ้าง ถ้าได้ยินไม่ผิด จุนมยอนเหมือนจะได้ยินเสียงของคนกำลังคุยกันอยู่ไม่ไกล

ปึก!
แต่ดูท่าความหวังทั้งหมดของจุนมยอนคงจะพังทลายลงเมื่อแรงและพละกำลังของคนภายในห้องมีมากกว่า ไม่ทันจะได้ร้องขอความช่วยเหลือใดๆ ร่างทั้งร่างก็ถูกกระชากกลับเข้าห้องไปพร้อมกับบานประตูที่ปิดฉับลง
“คริส..ฮือ..ปล่อยฉันไปเถอะนะ”   คนตัวเล็กร้องไห้พร้อมกับทรุดตัวลงนั่งอย่างน่าสงสาร
ท่าทีของคริสที่นิ่งไปทำให้จุนมยอนค่อยๆกระถดกาย และรีบคลานหนีไป แต่เพียงแค่คริสหันกลับมาเห็นว่าคนที่ตัวเองรักกำลังจะหนีกันไป ก็ก้าวสามขุมเข้าไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าคนที่แทบไม่มีเรี่ยวแรงจะหนีไปไหน แต่ก็ยังดื้อด้านจะหนีกันไป
เขาไม่อยากรุนแรงกับจุนมยอน อยากจะถนอมจุนมยอนให้ได้มากที่สุด เพื่อที่เราจะได้มีความสุขกันไปนานๆ
“เอาสิ ถ้าหนีได้ก็หนีสิ..คนเก่ง”   จุนมยอนเหลียวมองเจ้าของสองเยียบเย็น พร้อมกับคลานถดกายไปเกาะกับตู้โชว์ใบใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า
“อยากเล่นให้ผมไล่จับก็บอกกันดีๆสิที่รัก”  เสียงกรีดร้องจากความเจ็บปวดของร่างขาวเป็นเหมือนกับเสียงหวานที่คริสชอบที่จะฟัง
“ฮึก..ฮึก..ฮือ”   เรียวนิ้วเล็กจิกลงกับตู้ใบใหญ่เมื่อถูกคนด้านหลังแทรกเข้ามาในร่างทั้งที่เขายังอยู่ในท่าคลานเช่นนี้ แรงส่งที่เพิ่มมากขึ้นจนสุดท้ายจุนมยอนก็ได้แต่ซบใบหน้าเปื้อนน้ำตาลงกับหลังฝ่ามือของตนเอง
“ผมรักจุนมยอนนะ”  ถ้อยคำกระซิบข้างหู พร้อมกับช้อนเอาร่างที่สลบไปพร้อมน้ำตาขึ้นอุ้ม
คริสวางร่างของคนรักลงบนเตียงนอนของเราอย่างทนุถนอม ก่อนจะล้มตัวลงนอนเคียงข้างกันแล้วสอดแขนกอดเอวบางไว้จากทางด้านหลังด้วยความหวงแหน ริมฝีปากก็พรมจูบทั้งเรือนผม ท้ายทอย และหัวไหล่ขาวๆที่มีแต่รอยรักจากกิจกรรมเรียกเหงื่อของเรา
“อย่าดื้อกับผมอีก แล้วผมจะไม่รุนแรงนะที่รัก”


สุดท้ายแล้วถ้าหากมันไม่ใช่ของเรายังไงมันก็ไม่ใช่..
แต่ถ้าหากมันเป็นของเราแล้วจะหนีให้ตายยังไงก็คงไม่พ้น..



อ่านแล้วกลับไปเม้นที่หน้าเด็กดีนะคะ  >>Dek-d<<

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น